กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--กรมส่งเสริมการเกษตร
เปิดโอกาสให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเข้าถึงบริการรัฐมากขึ้นสร้างเศรษฐกิจชุมชนเข้มแข็งพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นผู้ประกอบกิจการ SMEs ในอนาคต
วิสาหกิจชุมชน นับเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน โดยนำความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นและทรัพยากรนำมาผลิตสินค้าหรือบริการ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน แต่วิสาหกิจชุมชนหลายแห่งยังคงมีปัญหาและข้อจำกัดในการบริหารกิจการตามพระราชบัญญัติ(พรบ.)ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติม พรบ. และประการใช้ พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 โดยสนับสนุนให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เป็นนิติบุคคลเพื่อความเข้มแข็งยิ่งขึ้น สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของรัฐได้สะดวกมากขึ้น
นายชาตรี บุญนาค รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ภายหลังจากคณะรัฐมนตรีและสภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเห็นชอบ พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2562 แล้วนั้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้กฎหมายฉบับใหม่นี้ กรมส่งเสริมการเกษตรจึงได้จัดการสัมมนาบูรณาการงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนหน่วยงานภาคี ครั้งที่ 2/2562 ร่วมกับ หน่วยงานภาคี ผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการผู้แทนวิสาหกิจชุมชนในคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กทม. เมื่อวันจันทร์ที่ 29 เมษายน 2562
ในงานสัมมนาดังกล่าว กรมส่งเสริมการเกษตรเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยกันวางหลักสูตรฝึกอบรมเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อสร้างความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่ ในการนำไปชี้แจงแก่วิสาหกิจชุมชนในพื้นที่ความรับผิดชอบตนเองต่อไป และนำผลสรุปที่ได้ในงานสัมมนาไปจัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงานให้กับเจ้าหน้าที่ในส่วนกลางและระดับชุมชนต่อไป
นายชาตรีกล่าวว่า พรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพรบ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 โดยกำหนดบทบัญญัติเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนนิติบุคคล บทบาทหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร การปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนและคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด การยกเลิกคณะกรรมการประสานนโยบายกองทุนเพื่อพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชน การเพิ่มบทบาทหน่วยงานที่ให้การสนับสนุน เพื่อให้การพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชนเกิดความเข้มแข็งและส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวต่อไป
นายชาตรี กล่าวว่า พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชนที่แก้ไขเพิ่มเติม จะช่วยให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถขึ้นทะเบียนและประกอบกิจการในฐานะนิติบุคคลได้สะดวกขึ้น สามารถทำนิติกรรม ธุรกรรมหรือถือครองทรัพย์สินได้ภายใต้ชื่อของวิสาหกิจชุมชน และเปลี่ยนรูปแบบการเสียภาษีจากบุคคลธรรมดาเป็นการเสียภาษีในรูปแบบ
นิติบุคคลที่ได้รับการลดหย่อนภาษีมากกว่า รวมทั้ง แก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการจัดทำประกาศเรื่องการโอนอสังหาริมทรัพย์จากสมาชิกให้แก่วิสาหกิจชุมชน
พ.ร.บ.วิสาหกิจชุมชนที่แก้ไขเพิ่มเติม กำหนดให้กรมส่งเสริมการเกษตรอำนวยความสะดวกและลดขั้นตอนของวิสาหกิจชุมชนในการติดต่อกับส่วนราชการ โดยทำหน้าที่รับเรื่อง ประสานงาน และติดตามผลในการขอจัดตั้งเป็นนิติบุคคลของวิสาหกิจชุมชนในรูปแบบต่างๆ นอกจากนี้ ยังได้แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะเลขานุการของคณะกรรมการ เพื่อขยายโครงสร้างการดำเนินการให้ครอบคลุมการพัฒนาและส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชนมากยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายสนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้มีความเข้มแข็ง สามารถพัฒนาไปเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในระยะต่อไป "รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวในที่สุด