CKPower โตหยุดไม่อยู่ ไตรมาสแรกปีนี้รายได้เพิ่มกว่า 30% ย้ำตั้งเป้า 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 10, 2019 11:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 พ.ค.--ซีเค พาวเวอร์ นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสแรกของบริษัทในปี 2562 ว่า CKPower มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 30% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 เป็น 2,418 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 มีรายได้ 1,829 ล้านบาท นับเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้น 589 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรสุทธิในไตรมาสแรกของ CKPower เพิ่มขึ้นเป็น 139.4 ล้านบาท นับเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้นกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อน เป็นการย้ำประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้น แสดงถึงการเติบโตของธุรกิจโรงไฟฟ้าหลักที่ CKPower บริหารงานอยู่ทั้ง 3 ประเภท ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บางเขนชัย ปัจจัยที่ทำให้รายได้และกำไรของ CKPower เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของปี 2562 มาจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 มีปริมาณเพิ่มขึ้น 110 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 30% ประกอบกับการปรับค่ารับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มขึ้น 8% ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2562 อีกทั้ง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่าน CKPower เริ่มจ่ายไฟโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ขนาดกำลังการผลิต 0.9 เมกะวัตต์ ให้แก่ผู้ประกอบการภาคเอกชนแล้วจำนวน 1 โครงการ จากจำนวนทั้งสิ้น 5 โครงการ และยังมีโครงการไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินอีก 1 โครงการ รวมกำลังการผลิต 6.75 เมกะวัตต์ ซึ่งได้เริ่มทยอยก่อสร้างตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ปี 2561 คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ได้ครบทั้งหมดในปี 2562 นี้ ขณะเดียวกัน โครงการไฟฟ้าพลังงานระบบความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าบางปะอินโคเจนเนอเรชั่น (BIC) มีการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5-6% นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี มีความคืบหน้ากว่า 98% ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ.อย่างเป็นทางการเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นการจ่ายไฟจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 175 เมกะวัตต์ เครื่องแรกจากจำนวนทั้งหมด7 เครื่อง ซึ่ง CKPower คาดว่าจะสามารถเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เครื่องที่ 2 และ 3 ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ และจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามแผนได้ภายในไตรมาส 4 ของปี 2562 นี้ จากการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2562 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด เพิ่มในสัดส่วนร้อยละ 5.33 เป็นมูลค่ารวม 681.5 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ CKPower เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด จากร้อยละ 56.0 เป็นร้อยละ 61.3 ของทุนจดทะเบียน และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนทางอ้อมใน โรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 จากร้อยละ 42.0 เป็นร้อยละ 46.0 โดยคาดว่าจะดำเนินการเข้าทำสัญญาและดำเนินการต่างๆ แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2562 ในส่วนของสถานะทางการเงิน เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2562 บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2562 จำนวนรวม 6,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการตอบรับจากนักลงทุนสถาบันเป็นอย่างดี โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ที่ออกในครั้งนี้ที่ระดับ "A" และปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดอื่นๆ ทั้งหมดของบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด เป็นระดับ "A" และมีแนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" โดยบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ได้นำเงินจากการออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวชำระคืนหนี้เงินกู้จากสถาบันการเงินที่เหลือทั้งหมด เพื่อลดต้นทุนและเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของกลุ่ม CKPower "จากผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ รวมถึงกิจกรรมการดำเนินงานที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญของกลุ่ม CKPower ในการส่งเสริมผลประกอบการในอนาคตให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของบริษัทที่จะก้าวเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดของประเทศและในภูมิภาคอาเซียน และดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน (Sustainable) ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม (Social and Environmental Responsibility) ซึ่ง CKPower จะยังคงมุ่งหาโอกาสทางธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งที่ 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568" นายธนวัฒน์กล่าว ข้อมูลเกี่ยวกับ CKPower : บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ 3 ประเภท จำนวน 13 โครงการ รวมขนาดกำลังการผลิตติดตั้งที่ 2,167 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 42% (ถือผ่าน บริษัท เซาท์อีสท์ เอเชีย เอนเนอร์จี จำกัด) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 615 เมกะวัตต์ และบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 37.5% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 1,285 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม จำนวน 2 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 65% ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 238 เมกะวัตต์ และโครงการไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 โครงการ ภายใต้ บริษัท บางเขนชัย จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 100% จำนวน 7 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ภายใต้ บริษัท เชียงรายโซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 8 เมกะวัตต์ และภายใต้บริษัท นครราชสีมา โซล่าร์ จำกัด ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 30% จำนวน 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 6 เมกะวัตต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ