กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--แอร์เอเชีย
บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ผู้ถือหุ้นใหญ่ บจ. ไทยแอร์เอเชีย (TAA) เผยผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ปี 2562 AAV มีรายได้รวมอยู่ที่ 11,623 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 497 ล้านบาท
ในขณะที่ บจ. ไทยแอร์เอเชีย มีรายได้รวม 11,622 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิที่ 903 ล้านบาท โดยคงอัตราการขนส่งผู้โดยสาร (Load Factor) ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ร้อยละ 90
ทั้งนี้ สรุปรวมไตรมาสที่ 1 ปี 2562 ไทยแอร์เอเชีย ขนส่งผู้โดยสาร 5.86 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นไปตามปริมาณที่นั่ง (Capacity) ที่เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีจำนวนเครื่องบิน 62 ลำ พร้อมเปิดฐานปฏิบัติการบินแห่งที่ 7 ที่จังหวัดเชียงราย ในไตรมาสนี้ บินตรงสู่มาเก๊า กัวลาลัมเปอร์ สิงคโปร์ และเส้นทางภายในประเทศ เชียงราย-ภูเก็ต
นอกจากนี้ ล่าสุดในช่วงต้นเดือนเมษายน ได้เปิดเส้นทางเพิ่มในตลาดอินโดจีน (CLMV) มุ่งเน้นสู่ประเทศเวียดนาม 3 เส้นทาง ได้แก่ ดอนเมือง-เกิ่นเทอ ดอนเมือง-ญาจาง และเชียงใหม่-ดานัง และที่ประเทศกัมพูชา 2 เส้นทาง คือดอนเมือง-สีหนุวิลล์ และภูเก็ต-พนมเปญ และเปิดเส้นทางสู่จุดหมายใหม่ที่ประเทศอินเดีย 1 เส้นทาง คือ ดอนเมือง-อาห์เมดาบัด ตอกย้ำการเพิ่มโอกาสบินใหม่ในตลาดกลยุทธ์ ควบคู่การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการต้นทุนและบริหารการใช้ฝูงบินอย่างเหมาะสม
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเชีย เอวิเอชั่น และ บจ.ไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า สำหรับไตรมาสที่ 1 ปี 2562 นี้ ไทยแอร์เอเชียฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากภาวะราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการแผนสนับสนุนของภาครัฐที่ช่วยขยายเวลาใช้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival) ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 20 ประเทศและ 1 เขตเศรษฐกิจ
"ไทยแอร์เอเชียเดินหน้าตามแผนกลยุทธ์ขยายเครือข่ายเส้นทางสู่ตลาดอินโดจีน CLMV และเส้นทางเชื่อมเมืองรองระหว่างประเทศ รวมถึงให้ความสำคัญกับการเสริมความแข็งแกร่งของฐานปฏิบัติการการบินภูมิภาค เช่น เชียงใหม่ และภูเก็ตที่เห็นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้การเปิดฐานปฏิบัติการบินแห่งที่ 7 ที่จังหวัดเชียงราย เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสารและกระตุ้นศักยภาพของตลาดใหม่โดยเป็นการสร้างโอกาสให้กับธุรกิจในอนาคต" นายสันติสุขกล่าว
การที่ไทยแอร์เอเชียมองหาโอกาสใหม่ในการเติบโตอยู่เสมอทั้งในกลุ่มประเทศ CLMV และตลาดอินเดีย เพื่อมาเสริมทัพตลาดในประเทศและจีนที่เข้มแข็งอยู่แล้ว ทำให้ยังคงสถานะความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสายการบินราคาประหยัดในไทย อีกทั้งมีส่วนแบ่งตลาดภายในประเทศเป็นอันดับ 1 เสมอมา เตรียมความพร้อมทุกสภาวะการแข่งขันและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยื
ทั้งนี้ในไตรมาส 1 ปี 2562 นายสันติสุขมองว่า รากฐานที่แข็งแกร่งของไทยแอร์เอเชียทำให้บริษัทรับมือกับความแปรผันของตลาดโลกได้เป็นอย่างดี ประกอบกับการสนับสนุนที่ตรงจุดของภาครัฐทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี ด้านผลประกอบการประจำไตรมาสเติบโตตามเป้าหมายและมีอัตราการขนส่งผู้โดยสารที่น่าพอใจ
สำหรับปี 2562 ไทยแอร์เอเชียยังจะเดินหน้าต่อไปตามแผนที่วางไว้ โดยเฉพาะการเพิ่มความถี่เที่ยวบินในเส้นทางที่ได้รับความนิยมและขยายเครือข่ายเส้นทางสู่ตลาดใหม่ๆเพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวชาติใดชาติหนึ่งมากเกินไป โดยตลอดปี 2562 ตั้งเป้ายอดจำนวนผู้โดยสารที่ 23.15 ล้านคน และอัตราขนส่งผู้โดยสารร้อยละ 86 พร้อมรับเครื่องบินใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานมากขึ้น เข้าประจำการฝูงบินอีก 1 ลำ รวมเป็น 63 ลำ ณ สิ้นปี ซึ่งจะช่วยให้ไทยแอร์เอเชียมีผลการดำเนินงานและผลประกอบการที่แข็งแกร่งในปีนี้แน่นอน