กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--เบรนเอเซีย คอมมิวนิเคชั่น
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ร่วมกับ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เดินหน้าปีที่ 2 "โครงการพัฒนาผู้ตรวจสอบความปลอดภัยงานทาง" อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ความร่วมมือด้านวิชาการและวิชาชีพวิศวกรรม เร่งผลักดันให้มีผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบความปลอดภัยงานทางระดับต้นให้เพียงพอ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางอย่างไร้รอยต่อทั่วประเทศ ด้าน ทช.เพิ่มเงื่อนไขความปลอดภัยใน TOR งานก่อสร้างโครงการใหม่ ต้องมีผจก.ความปลอดภัยระหว่างก่อสร้าง เพื่อลดอุบัติเหตุ พัฒนาวิศวกรรมงานทางและระบบโลจิสติกส์ไทยให้เข้มแข็งยั่งยืน
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายก วสท. กล่าวว่า ถนนเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน ประเทศและการเชื่อมต่อในภูมิภาค เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการเดินทางและการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ต่างๆ โดยตลอด 1 ปีที่ผ่านมา วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ด้วยความร่วมมือจากกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติผ่านโครงการฝึกอบรม Road Safety Auditor หรือ ผู้ตรวจสอบความปลอดภัยงานทาง พร้อมทั้งการสอบประเมินผลสัมฤทธิ์การอบรมด้วย ซึ่งที่ผ่านมาได้ผลิตผู้ตรวจสอบความปลอดภัยงานทางที่มีความรู้ความสามารถไปแล้วกว่า 500 คนทั่วประเทศ ได้รับการตอบรับจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนเป็นอย่างดี
สำหรับแผนงานปีที่ 2 ในปี 2562 วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ สานต่อการดำเนินงานพัฒนาบุคลากรด้านความปลอดภัยและด้านวิศวกรรมการทางอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนจัดหลักสูตรอบรมกว่า 10 รุ่น โดยเปิดรับรุ่นละ 50 - 60 คน ตลอดทั้งปี มุ่งแนวทางพัฒนาศักยภาพผู้ตรวจสอบความปลอดภัยงานทาง เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบก่อสร้างถนน ไปจนถึงขั้นตอนการเปิดให้บริการ โดยได้คำนึงถึงคุณภาพในการจัดอบรมเป็นหลัก และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการให้ผู้เข้าอบรมได้ฝึกปฏิบัติภาคสนามจริง รวมทั้งการควบคุมตรวจสอบในระหว่างการก่อสร้างและหลังก่อสร้างงานทางจนแล้วเสร็จ เพื่อให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบความปลอดภัยงานทางระดับต้น (Inspector) กับกรมทางหลวงชนบทได้ทันที
ทั้งนี้ ได้แบ่งพื้นที่การจัดอบรมในปี 2562 ครอบคลุม 4 ภูมิภาคทั่วทั้งประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่หน่วยงานก่อสร้างและบริษัทต่างๆ รวมทั้งบุคลากรของกรมทางหลวงชนบทในแต่ละจังหวัด ให้สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินงานของกรมทางหลวงชนบท ที่กำหนดเป้าหมายของโครงการ 3 ด้าน ได้แก่ 1.ให้ประชาชนได้ใช้ทางและสะพานที่มีมาตรฐาน สามารถเดินทางได้ด้วยความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัย 2.เพื่อเชื่อมโยงทางหลวงชนบทกับทางหลวงและระบบการขนส่งอย่างเป็นโครงข่าย 3.เพิ่มศักยภาพบุคลากรด้านช่างขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สามารถพัฒนาปรับปรุงถนนโดยการพึ่งพาตนเอง
สำหรับงานก่อสร้างปี 2562 กรมทางหลวงชนบท ได้กำหนด เงื่อนไขด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นใน TOR งานก่อสร้างใหม่ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ก่อนที่จะขยายไปสู่โครงการขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยให้บริษัทผู้รับเหมาที่จะเข้ามาดำเนินโครงการก่อสร้างหรือยื่นเอกสารประมูลงานก่อสร้างกับกรมทางหลวงชนบทนั้นจะต้องมี "ผู้จัดการด้านความปลอดภัย หรือ "Safety Manager" 1 คน ทำหน้าที่รับผิดชอบดูแลความปลอดภัยในขณะก่อสร้าง และวิศวกรผู้ตรวจสอบจะต้องผ่านการอบรมและได้รับใบประกาศนียบัตรจากทางวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ เพื่อใช้เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาความพร้อมการยื่นเสนอราคากับกรมทางหลวงชนบท ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มคุณภาพความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนและชุมชน ตามหลักกฎหมายและมาตรฐานทางวิศวกรรม