กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ย้ำมาตรการสิ่งของห้ามส่งทางไปรษณีย์โดยเด็ดขาด ได้แก่ ยาเสพติด อาวุธและสิ่งของผิดกฎหมาย ทั้งนี้ หากเจ้าหน้าที่พบว่ามีการลักลอบ ส่งสิ่งของต้องห้าม ไปรษณีย์ไทยจะตรวจสอบหาผู้กระทำผิด และส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดี ทางกฎหมายต่อไป
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวว่า จากกรณีที่มีการลักลอบฝากส่งยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายผ่านเส้นทางไปรษณีย์นั้น ขอย้ำว่าการฝากส่งยาเสพติด และอาวุธทางไปรษณีย์นั้น เป็นการกระทำที่ "ผิดกฎหมาย" เนื่องจากเป็นหนึ่งในสิ่งของต้องห้ามฝากส่งตามพระราชบัญญัติไปรษณีย์ พ.ศ.2477 และผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งทางไปรษณีย์ไทย มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและป้องกันการลักลอบฝากส่งสิ่งของต้องห้ามและผิดกฎหมายที่เคร่งครัด ได้แก่ การขอความร่วมมือผู้ใช้บริการให้แสดงบัตรประจำตัวประชาชนแก่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งในการฝากส่งสิ่งของทางไปรษณีย์ ซึ่งเป็นไปตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด การติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภายในที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ ที่จะสามารถตรวจสอบไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ การฝากส่งสิ่งของผิดกฎหมาย เพื่อส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป ตลอดจนการใช้เครื่องสแกนวัตถุระเบิดแบบ X-ray ณ ศูนย์ไปรษณีย์ทั่วประเทศ
จากมาตรการฯ ที่กล่าวมาข้างต้น หากผู้ใช้บริการฝ่าฝืนส่งยาเสพติด อาวุธหรือสิ่งของผิดกฎหมายอื่นๆ ผ่านเส้นทางไปรษณีย์นั้น ไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบ และสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไปได้อย่างแน่นอน สำหรับสิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ 7 ประเภท ได้แก่ 1. สัตว์มีชีวิต 2. สิ่งเสพติด 3. สิ่งลามกอนาจาร 4. วัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ 5. วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อ ป้องกัน 6. ธนบัตร และ 7. สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์
นอกจากนี้ ในการฝากส่งทางอากาศนั้น ยังมีรายชื่อสิ่งของต้องห้ามตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศเพิ่มเติมอีก 5 ชนิด ดังนี้ 1. สารออกซิไดซ์และออร์แกนิกเปอร์ออกไซด์ 2. ก๊าซหรือกระป๋องสเปรย์ 3. สารกัดกร่อน 4. วัตถุและสารต้องห้ามในการขนส่งทางอากาศ อาทิ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์ที่มีการติดตั้งแบตเตอรี่ และ5. อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ ซึ่งมีรูปร่างและลักษณะอันน่าจะทำให้หลงเชื่อว่าเป็นอาวุธ เช่น ปืนและเครื่องกระสุน ปืนไฟแช็ค หรือปืนเด็กเล่น เป็นต้น โดยหากมีการตรวจพบการฝ่าฝืน จะมีโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 80,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นางสมร กล่าว
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาระบบและเข้มงวดในมาตรการการป้องกันการส่งสิ่งของ ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งยินดีให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามวัตถุผิดกฎหมายทุกประเภท เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขจัดปัญหาเหล่านี้จากประเทศไทยต่อไป