กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--ธามดี พลัส
บมจ.เชียงใหม่ริมดอย ประกาศงบไตรมาส 1 ปี 2562 รายได้ 348.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.71% กำไรสุทธิ 8.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.37% ส่วน Backlog เพิ่ม 70.57% อยู่ที่ 1,448 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน ชี้ขยับใกล้เป้าหมายที่วางไว้ 1,500 ล้านบาท ผู้บริหารสั่งปรับสัดส่วนงานเอกชนเพิ่มเป็น 70% หลังงานทยอยเข้าต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี พร้อมเดินหน้าเข้าประมูลงานทั้งภาครัฐและเอกชน 2,000 ล้านบาทต่อเนื่อง คาดสร้างมูลค่างานรวมของปีนี้ที่ 1,600 ล้านบาทได้ตามแผน
นายธีรพัฒน์ จิรพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชียงใหม่ริมดอย จำกัด (มหาชน) หรือ CRD บริษัทรับเหมาก่อสร้างอาคารสิ่งปลูกสร้างทั่วไป งานระบบสาธารณูปโภค งานระบบภายในอาคาร งานสถาปัตยกรรม และงานอื่นๆ รวมถึงงานก่อสร้างด้านพลังงานทางเลือก เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 1/2562 ว่า บริษัทมีรายได้จากการรับเหมาก่อสร้างจำนวน 348.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.71% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 209.86 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.37% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 8.05 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากสัดส่วนการรับรู้รายได้จากงานโครงการต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มาจากงานภาครัฐบาล 19% และ 81% เป็นงานภาคเอกชน
ทั้งนี้ รายได้ของบริษัทฯสามารถแบ่งเป็นรายได้ที่รับรู้จากงานโครงการต่อเนื่องจำนวน 312.45 ล้านบาท รายได้จากโครงการใหม่ 35.74 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นรายได้อื่นๆ อาทิ รายได้ค่าบริหารโครงการ รายได้ขายเศษวัสดุ ค่าสาธารณูปโภค และดอกเบี้ยรับ จำนวน 3.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.38% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2561
สำหรับงานดำเนินงานต่อจากนี้ บริษัทฯจะพิจารณาปรับสัดส่วนเป้าหมายการรับงานภาคเอกชนเพิ่มเป็น 70% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 60% เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาบริษัทฯมีโอกาสเข้ารับงานภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้งานภาครัฐจะปรับลงมาที่ 30% ตามสัดส่วน โดยบริษัทฯมีงานที่ยังไม่ส่งมอบ (Backlog) ณ วันที่ 31 มีนาคม 2562 มูลค่ารวม 1,448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.57% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มี Backlog อยู่ที่ 849.14 ล้านบาท และใกล้เคียงกับ Backlog ที่วางเป้าหมายไว้ที่กว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้มากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯยังดำเนินตามแผนงานที่จะเข้าประมูลงานก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนประมาณ 2,000 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังคงเน้นให้ความสำคัญในการคงประสิทธิภาพการทำงาน การควบคุมและบริหารต้นทุนในทุกโครงการที่ดำเนินการอยู่ รวมทั้งหาโอกาสรับงานใหม่ที่มีศักยภาพและความหลากหลายเพิ่มช่องทางการหารายได้ เพื่อให้สามารถสร้างโอกาสการเติบโต และเพิ่มมูลค่างานให้ได้ตามเป้าหมายในปีนี้ที่ 1,600 ล้านบาท
"การปรับสัดส่วนงานภาคเอกชนเพิ่มเป็น 70% จากเดิมที่คาดไว้ 60% จากการประเมินงานตั้งแต่ต้นปี เช่น งานก่อสร้างที่อยู่อาศัยต่างๆ งานก่อสร้างโรงแรม ที่ทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ผลักดันให้ Backlog เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,448 ล้านบาทใกล้เคียงกับเป้าหมายที่บริษัทฯวางไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า CRD เป็นที่รู้จักของลูกค้าและให้ความไว้วางใจการทำงานมากขึ้น ขณะที่มองว่างานภาครัฐน่าจะมีแนวโน้มการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทฯยังคงเชื่อว่าในปีนี้จะดำเนินงานได้ตามเป้าหมายที่จะสร้างผลงานในเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา"นายธีรพัฒน์ กล่าว