กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--มาสเตอร์ แอด
บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO โชว์ศักยภาพประกาศผลการดำเนินงาน ไตรมาสแรก ของปี พ.ศ. 2562 เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำรายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 149.3% หรือกว่า 689 ล้านบาท ซึ่งการเติบโตของรายได้ส่วนใหญ่มาจากรายรับของการให้บริการด้านระบบครบวงจร ของบริษัท ทรานส์แอดโซลูชั่น จำกัด และ บริษัท รอคเทคเทคโนโลยี จำกัด หรือ "Trans. Ad Group" ทั้งหมด 428 ล้านบาท สื่อประเภท Billboard และอื่นๆ ทำรายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 15.7% หรือจำนวน 153 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนสื่อประเภท Street Furniture สู่หน้าจอแบบ LED และกล่องไฟ ทั้งหมด 23 สถานี ซึ่งได้ทำการติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทฯ จะเริ่มทำการบันทึกผลการดำเนินงานของสื่อ Street Furniture ในรูปแบบ Digital ได้อย่างเต็มที่ในปีนี้ช่วงไตรมาสที่ 3 เป็นต้นไป ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะช่วยผลักดันการเติบโตของรายได้อย่างมีนัยสำคัญในปี 62
นายพุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้นำเครือข่ายสื่อโฆษณานอกบ้านเผยว่า ที่ผ่านมา MACO ได้ขยายธุรกิจโฆษณาสู่ต่างประเทศมาเลเซีย ภายใต้ชื่อบริษัท VGM (VGI Malaysia) ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการเข้าจัดการพื้นที่สื่อโฆษณาบนสถานีรถไฟฟ้าทั้งหมด 31 สถานี และบนขบวนรถไฟทั้งหมด 58 ขบวน รวมทั้งสื่อโฆษณาในสนามบิน ซึ่งสายรถไฟ SBK มีผู้โดยสารมากกว่า 150,000 คนต่อวัน ในส่วนของสนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ MACO ได้ทำการติดตั้งหน้าจอ Digital เพิ่มเติมอีกทั้งหมด 42 หน้าจอในอาคารผู้โดยสาร ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ดึงดูดสายตาจากผู้โดยสารมากกว่า 60 ล้านคนต่อปี โดยช่วงไตรมาสแรกประเทศมาเลเซียประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ซบเซา ทำให้ส่งผลกระทบกับลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทฯ ในการลงสื่อที่สนามบิน เนื่องจากการลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณา ซึ่งนำไปสู่การยกเลิกสัญญาระยะยาวบางส่วน ทำให้อัตรากำไรสุทธิส่วนของผู้ถือหุ้นไตรมาสแรก ลดลงจากเดิม 19.1% เป็น 5.4% โดย MACO กำลังเร่งดำเนินการหาลูกค้ารายใหม่เพื่อทดแทนสัญญาเดิม ซึ่งเราคาดการณ์ว่าสถานการณ์ที่ประเทศมาเลเซียจะคลี่คลายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 62
สำหรับตลาดอินโดนีเซีย ในช่วงเดือนเมษายน ที่ผ่านมา รถไฟฟ้าสายสีแดง (เหนือ-ใต้) ได้เปิดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีระยะทางรวมกว่า 15.7 กิโลเมตร ทั้งหมด 13 สถานี ในเดือนแรกของการดำเนินงานมีจำนวนผู้โดยสารมากกว่า 80,000 คนต่อวัน และคาดว่าจะให้บริการผู้โดยสารได้มากกว่า 200,000 รายต่อวัน ซึ่งบริษัท PT Avabanindo Perkasa (AVA) บริษัทร่วมของ MACO ได้เปิดให้บริการพื้นที่โฆษณาภายในสถานีรถไฟฟ้า จำนวน 13 สถานี และบนขบวนรถไฟฟ้า จำนวน 16 ขบวน ทั้งนี้เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น บริษัทฯจึงคาดว่าตลาดอินโดนีเซียจะสามารถเริ่มสร้างผลตอบแทนอย่างมีนัยสำคัญได้ในปีถัดไป
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังกล่าวอีกว่า แม้บริษัทฯ จะต้องเผชิญกับความผันผวนของแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก และจากอัตรากำไรสุทธิของเราที่คาดว่าจะลดลงจากปัจจัยข้างต้น แต่เรายังคงประมาณการอัตราการเติบโตรายได้ของ MACO ที่ 30-35% หรืออยู่ในช่วง 2,300 – 2,400 ล้านบาท ซึ่งเราจะเปลี่ยนความท้าทายจากสถานการณ์ต่างๆให้เป็นประโยชน์ในการค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆที่มีศักยภาพในมาเลเซีย และนำไปสู่การสร้างความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มบริษัทฯ ยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งนี้จากผลการดำเนินงานที่เติบโตดีเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2561 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจำนวนเงินทั้งสิ้น 83 ล้านบาท ในอัตราหุ้นละ 0.020 บาท