กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป
บลจ.ทิสโก้ส่ง TCHLINK8 พาลูกค้าแสวงหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน สร้างผลตอบแทนไม่จำกัดอิงดัชนีตลาดหุ้นจีน HSCEI พร้อมป้องกันความเสี่ยงตลาดขาลง เน้นรักษาเงินต้น เหมาะกับยุคดอกเบี้ยต่ำในปัจจุบัน เปิด IPO ตั้งแต่วันนี้ถึง 30 พ.ค. 62
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mr. Saharat Chudsuwan, Head of Marketing and Wealth Advisory, Mutual & Private Fund Business, TISCO Asset Management Co., Ltd.) เปิดเผยว่า บลจ.ทิสโก้ประเมินว่า หลังจากนี้อัตราดอกเบี้ยไทยจะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง และโอกาสที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับดอกเบี้ยขึ้นในปีนี้มีค่อนข้างน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจโดยภาพรวมไม่ได้เติบโตร้อนแรง ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรปกลับมามีแนวโน้มผ่อนคลายมากขึ้นในปีนี้
ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงความผันผวนของตลาดหุ้นไม่ได้มากนัก และคำนึงถึงความคงอยู่ของเงินต้นเป็นสำคัญ พร้อมทั้งต้องการผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าการฝากเงินหรือการลงทุนในตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว บลจ.ทิสโก้ จึงเปิดตัวกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์ รีเทิร์น 8 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (TCHLINK8) กองทุนรวมผสมอายุโครงการ 3 ปี ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) มีนโยบายแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดี เงินฝาก ตราสารทางการเงินทั้งในและ/หรือต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีที่ออกโดยบริษัทเอกชนที่มีการจัดอันดับเครดิตตั้งแต่ A- ขึ้นไปในสัดส่วนประมาณ 95% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ตั้งเป้าให้เงินส่วนนี้เพิ่มขึ้นเป็น 100% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนภายใน 3 ปี
ส่วนที่สองลงทุนในสัญญาวอร์แรนท์อิงดัชนี HSCEI สะท้อนผลการดำเนินงานบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในสัดส่วนประมาณ 5% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน ช่วยให้ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีแบบไม่จำกัดหากดัชนีหุ้นจีนปรับขึ้นจากนับจากวันเริ่มต้น โดยจะมีการประเมินผลตอบแทนทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุ 3 ปี เปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) แล้ววันนี้ถึงวันที่ 30 พ.ค. 2562 วงเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 3 ปี และกองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออกตราสาร ดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุน ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
"กองทุนนี้มีความโดดเด่นตรงที่กองทุนจะแบ่งเงิน 95% ไปลงทุนในหุ้นกู้เอกชนคุณภาพดี ซึ่งกองทุนตั้งเป้าว่าเมื่อครบ 3 ปี เงินส่วนนี้จะเพิ่มมาอยู่ที่ 100% เท่ากับว่านักลงทุนมีโอกาสได้รับเงินคืนเท่ากับเงินต้นที่ลงทุนไว้ พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนดีขึ้น เพราะอีก 5% จะไปลงทุนในวอร์แรนท์อิงดัชนีหุ้นจีน HSCEI หากดัชนีหุ้นจีนขึ้นแรงก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีแบบไม่จำกัด แต่ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้ดัชนี HSCEI ปรับตัวลดลงตลอด 12 ไตรมาสนับจากวันที่เริ่มลงทุน นักลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในสัญญาวอร์แรนท์ แต่ยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินคืนเท่ากับเงินต้นที่ลงทุนไว้ จากเงินต้นของการลงทุนรวมกับผลตอบแทนที่มาจากการลงทุนในหุ้นกู้บริษัทเอกชน" นายสาห์รัชกล่าว
สำหรับการลงทุนในหุ้นกู้คุณภาพดีนั้น เบื้องต้นคาดว่ากองทุน TCHLINK8 จะเข้าไปลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หุ้นกู้ของบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ของบริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน)
กองทุน TCHLINK8 ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนในส่วนผลตอบแทนของสัญญาวอร์แรนท์จึงทำให้กองทุนมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยกองทุนจะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้และ/หรือเงินฝากต่างประเทศ นอกจากนี้ กองทุนเน้นลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงด้านเครดิตและสภาพคล่องมากกว่ากองทุนรวมทั่วไป ซึ่งตราสารดังกล่าวอาจไม่สามารถชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยตามจำนวนหรือเวลาที่กำหนด
ทั้งนี้ ผลตอบแทนของกองทุนไม่ได้ผันแปรกับการเคลื่อนไหวของดัชนี Hang Seng China Enterprises โดยตรง แต่ขึ้นอยู่กับอัตราการเปลี่ยนแปลงและการเคลื่อนไหวของดัชนีดังกล่าวที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไขในหนังสือชี้ชวนเท่านั้น และเนื่องจากเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูงและซับซ้อน ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้แนะนำการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดหรือขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. ทิสโก้ หรือ ธนาคารทหารไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน หรือ TISCO Contact Center โทร. 02-633-6000 กด 4