กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--หอการค้าชลบุรี
ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล ประธานหอการค้าจังหวัดชลบุรี รับตำแหน่งพร้อมตั้งเป้าพลิกโฉมสู่ยุคดิจิทัล เสริมแกร่ง SMEs พัฒนานวัตกรรม เปิดนโยบาย 9 ฝ่าย กระจายรายได้สู่ชุมชน นำทัพภาคเอกชนพัฒนาชุมชนบ้านเกิด ณ แหลมทองเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันก่อน
จากการทำงานร่วมกับหอการค้าจังหวัดชลบุรีมายาวนานกว่า 15 ปี นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงวัย 40 ปี "ธีรินทร์ ธัญญวัฒนกุล" กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุนทรธัญทรัพย์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงตราไก่แจ้ และบริษัท ทีอาร์ ไทยฟู้ดส์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าขนมไทยตราแม่นภา จากหนทางผู้สร้างปรากฎการณ์นำพาธุรกิจก้าวกระโดดจาก 10 ล้านไประดับ 2,500 ล้านบาทสู่บทบาทใหม่การนำทัพภาคเอกชนพัฒนาชุมชนบ้านเกิด ได้รับคัดเลือกจากคณะกรรมการสมาชิกหอการค้า และกลุ่ม YEC (Young Enterpreneur chamber of commerce) จังหวัดชลบุรี ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานหอการค้าจังหวัดชลบุรีคนใหม่ในวาระปี 2562 - 2563
ธีรินทร์ กล่าวถึงนโยบายและวิสัยทัศน์การพลิกโฉมหอการค้าจังหวัดชลบุรีสู่ยุคดิจิทัลว่า มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะก้าวไปเป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม นวัตกรรมและดิจิทัลภายในจังหวัด ซึ่งจะมีการประสานงานกันทั้ง 9 ฝ่าย โดยมีรองประธาน ทีมงานที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านธุรกิจดูแลอย่างใกล้ชิด
"ปีนี้เราจะต้องส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลให้เข้าถึงชุมชนมากขึ้นทั้งภาคการผลิต การขายและการจัดการมาช่วยให้ผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้ในโลกปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่มีคู่แข่งมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศซึ่งมีเงินทุนมหาศาล เข้ามากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย วันนี้ในฐานะที่เป็นตัวแทนของภาคเอกชนจึงมีความมุ่งมั่นที่จะเข้าไปช่วยเหลือชุมชนให้มีการนำนวัตกรรมต่างๆ มาใช้และต่อยอดธุรกิจของพวกเขาให้สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน"
สำหรับนโยบายใหม่ของหอการค้าจังหวัดชลบุรี แบ่งเป็น 9 ฝ่ายสำคัญ โดยเริ่มจาก
1) ฝ่ายแรงงาน ช่วยส่งเสริมการยกระดับแรงงานเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการและ EEC พร้อมส่งเสริมการพัฒนาหลักสูตรกับมหาวิทยาลัย
2)ฝ่ายเกษตรกรรม ช่วยพัฒนาสินค้าเกษตรในพื้นที่ เช่น สับปะรดและปลานิล ให้เกิดความสมดุลและมีรายได้ที่ยั่งยืน พยายามผลักดันการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการจัดการภาคเกษตรเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
3) ฝ่ายขนส่ง นับเป็นฝ่ายสำคัญของจังหวัดเนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะมีการส่งเสริมการร่วมมือของภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาระบบขนส่งให้รวดเร็วและสะดวกสบาย รองรับการเติบโตของ EEC ต่อไป
4) ฝ่ายการค้าการลงทุน จะมีการกระตุ้นการลงทุนภายในชุมชนที่เป็นธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง ให้ความรู้และฝึกทักษะด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่
5) ฝ่ายอุตสาหกรรม รวมการพัฒนาการเกษตร ประมงและการแปรรูป โดยมุ่งเน้นการต่อยอดสินค้าด้วยนวัตกรรมดิจิทัล
6) ฝ่ายการท่องเที่ยว ยกระดับการท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อให้เกิดเป็น 1 ตำบล 1 สถานีใน 27 ตำบลทั้งหมด ใช้เทคโนโลยีมาช่วยในการจัดระบบท่องเที่ยว เช่นรวมการทำทัวร์ เส้นทางท่องเที่ยวและที่พักได้ในครั้งเดียว พร้อมอบรมบุคลากรให้มีความสามารถในการใช้ภาษาต่างประเทศ
7)ฝ่ายพาณิชย์ ยกระดับการค้าขายของตลาด SMEs ในจังหวัด เพื่อสร้างความเข็มแข็งจากชุมชน ส่งเสริมการใช้ดิจิทัล เปิดตลาดใหม่ทั้งในและต่างประเทศ
8)ฝ่ายการศึกษา จะดำเนินการต่อยอด MOU ที่มีการร่วมมือกันระหว่างมหาวิทยาลัยบูรพาและอาชีวะ สร้างหลักสูตรที่เป็นที่ต้องการของธุรกิจ รวมถึงการจัดอบรมในชุมชนเพื่อสร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดให้เกิดการพัฒนาอย่างประสิทธิภาพ และ
9)ฝ่ายนวัตกรรมและดิจิทัลเทคโนโลยี ส่งเสริมความเข้าใจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการในเรื่อง IoT ERP BI และ AI เป็นต้น พร้อมผลักดันให้มีการใช้เทคโนโลยีมาจัดการระบบธุรกิจเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในชุมชน