กรุงเทพฯ--28 พ.ค.--IR PLUS
ASIAN ปูพรมธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ส่งออกแบรนด์มองชูดังไกลถึงจีนเรียบร้อยแล้ว พร้อมเสริมทัพด้วยการเข้าลงทุนซื้อหุ้น "ไท่หย่า เหม่ยซื่อ" 51% ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด ปรับเป้ารายได้ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงโกยยอดขายที่ 5.5 พันล้านบาท หรือมีสัดส่วน 42% ภายในปี 2563 เป็นธุรกิจดาวเด่นของกลุ่ม ส่อเห็นแววตั้งแต่ปีนี้ ขณะที่ธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็งปรับกลยุทธ์เป็นสินค้าที่มี Value-Added มั่นใจ ผลงานปี 62 วางเป้ารายได้เติบโต 11% หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,700 ล้านบาท
นางสาววรัญรัชต์ อัสสานุพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารสัตว์น้ำ และแปรรูปสัตว์น้ำแช่แข็ง รวมถึงผลิต ผลิตภัณฑ์ทูน่าจำหน่ายและส่งออก เปิดเผยถึง ภาพรวมธุรกิจในปี 2562 จะเป็นการมุ่งเน้นการขยายธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเนื่องจากเชื่อมั่นว่าเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง โดยนอกเหนือจากธุรกิจ OEM ที่ได้รับการยอมรับจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกแล้ว ปี 2562 ยังเป็นก้าวสำคัญที่ Asian มองเห็นโอกาสในการพัฒนาแบรนด์ของตนเอง รุกตลาดประเทศจีน ด้วยประสบการณ์การอยู่เบื้องหลังแบรนด์ระดับโลกและการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ASIAN มีไลน์เครื่องจักรผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งในแบบบรรจุกระป๋อง บรรจุถุงเพาซ์ และบรรจุถ้วยพลาสติก มีกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 32,000 ตัน/ปี ปัจจุบัน ใช้กำลังการผลิตไปแล้วราว 70% ตั้งเป้าปี 2562 ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงจะสามารถทำนิวไฮต่อเนื่อง หรือมีสัดส่วนรายได้ราว 34% จากไตรมาส 1/2562 สัดส่วนรายได้อยู่ที่ 31% ของรายได้รวม และคาดว่าจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้สูงสุดให้บริษัทฯ ภายในปี 2563 โดยปี 2562 ASIAN วางรากฐานสำคัญซึ่งได้แก่ การเข้าสู่ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดในประเทศจีนและการสร้างแบรนด์ "มองชู" ซึ่งหากประสบความสำเร็จ เชื่อว่าธุรกิจจะเติบโตก้าวกระโดดอีกครั้งในปี 2563
จากความเชี่ยวชาญ และความพร้อมในทุกด้าน ASIAN ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและอาหารแมวระดับพรีเมี่ยม ภายใต้แบรนด์ "มองชู" เข้าไปรุกตลาดประเทศจีนผ่านการดำเนินงานของบริษัท Thaiya Corporation (Shanghai) Co., Ltd. (บริษัทในเครือที่ บจก.เอเชี่ยน กรุ๊ป เซอร์วิส ถือหุ้น 100%) วางช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งทางระบบออนไลน์และช่องทางค้าปลีก ซึ่งเริ่มจำหน่ายแล้วตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ Thaiya Corporation (Shanghai) Co., Ltd. จะเข้าลงทุนซื้อหุ้นสามัญ 51% ของบริษัท Shangdong Thaiya Meisi Pet foods Co.,Ltd. ในประเทศจีน เพื่อดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ดในประเทศจีน คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนราว 48 ล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/2562 จากนั้น บริษัทฯ จะให้บริการรับจ้างผลิต ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด หรือ Dry Pet Food ทั้งภายใต้แบรนด์ของตนเอง และภายใต้แบรนด์ของลูกค้าภายในปี 2562 เสริมความแข็งแกร่งให้ ASIAN ในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงยิ่งขึ้น
"ตลาดในกลุ่มประเทศจีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นตลาดที่เป็นโอกาสของแบรนด์เกิดใหม่ โดยมีปัจจัยสำคัญจากกำลังซื้อที่มากขึ้นและการพัฒนาของช่องทางการค้าปลีกออนไลน์ที่พลิกโฉมหน้าของการขาย ทั้งยังมีแนวโน้มพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามตลาดสำคัญในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งได้แก่ตลาดในประเทศสหรัฐอเมริกา, ยุโรป และในกลุ่มประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ประกอบกับผู้ผลิตไทย ยังคงได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างมาก นับเป็นโอกาสสำคัญในการเร่งรุกตลาดดังกล่าว โดยแบรนด์มองชู ซึ่งเป็นแบรนด์ของเราเอง จะเข้ารุกตลาดจีนในไตรมาส 2 ปีนี้ พร้อมๆ กับการขายในประเทศไทย ประเดิมในประเทศบ้านเราที่แรกในงาน Pet Expo Thailand 2019 วันที่ 30 พฤษภาคมนี้ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา และหลังจากงาน Pet Expo ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ "มองชู" ได้ตามร้านค้าประเภท Pet shop โรงพยาบาลสัตว์ รวมถึง ช่องทางโมเดิร์นเทรดในกลุ่มพรีเมี่ยมเป็นหลัก" นางสาววรัญรัชต์ กล่าว
แนวโน้มผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/2562 ยังเชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้า โดยบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการขยายตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงที่จีนอย่างเข้มข้น เพื่อขยายตลาดและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำปรับตัวดีขึ้นจากการมุ่งมั่นพัฒนาสูตรการผลิต และการดำเนินมาตรการทางสินเชื่อที่เข้มข้น ในขณะที่ธุรกิจอาหารแช่เยือกแข็ง ซึ่งมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ราว 37% มองว่าธุรกิจจะทรงตัว จากการปรับกลยุทธ์ เข้าสู่ตลาดผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า (Value-Added Product) อย่างเต็มรูปแบบ ลดการผลิตสินค้ากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ สำหรับธุรกิจทูน่าซึ่งในระยะ 2 ปีให้หลังให้ผลประกอบการที่น่าพอใจ บริษัทปรับเป้าจะขยายตลาดอย่างระมัดระวัง เชื่อทุกธุรกิจจะสนับสนุนเป้าหมายรายได้ในปี 2562 วางไว้เติบโต 11% หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ 10,700 ล้านบาท จากปีก่อนรายได้รวมอยู่ที่ 9,740 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1/2562 บริษัทฯ และบริษัทย่อยในงวดไตรมาส 1/2562 มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 2,359 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 2,300 ล้านบาท ในขณะที่ยอดขายเชิงปริมาณเพิ่มขึ้นราว 5% ซึ่งเป็นผลจากผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ผลิตภัณฑ์ทูน่า และปริมาณการขายในธุรกิจจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น บางส่วนเป็นผลจากการบันทึกยอดขายวัตถุดิบทูน่าเป็นรายได้จากการขาย จากเดิมบันทึกหักต้นทุนขาย และมีการขายผลิตภัณฑ์ปลาป่นมากขึ้น และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 60 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ราว 27 ล้านบาท