กรุงเทพฯ--29 พ.ค.--อี ฟอร์ แอล เอม
บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) และ GE Medical Systems (Thailand) Ltd. สบช่องตลาดโรงพยาบาลในประเทศไทยกำลังเร่งเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการภาพถ่าย และภาพเคลื่อนไหวทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความแม่นยำในการให้บริการรักษาผู้ป่วย จึงลงนามร่วมกันนำผลิตภัณฑ์ GE ในกลุ่ม Enterprise Digital Solutions อันได้แก่ GE CentricityTM Cardio Enterprise ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลด้านหัวใจ และหลอดเลือดแบบครบวงจร เข้ามาทำตลาด โดยมีโรงพยาบาลกลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจ ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้ให้เติบโตเพิ่มเติมอย่างยั่งยืนให้กับทั้ง 2 บริษัทต่อไปในอนาคต
นายปรีชา นันท์นฤมิต ประธานกรรมการ บริษัท อี ฟอร์ แอล เอม จำกัด (มหาชน) (EFORL) ผู้แทนจำหน่ายและผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามข้อตกลงกับบริษัท GE Healthcare Pte. Ltd. ประเทศสิงคโปร์ สำนักงานประจำภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิคของบริษัท GE Healthcare (NYSE: GE) ประเทศสหรัฐอเมริกา โดย Dr. Rajan Kalidindi, Country Leader, GE Medical Systems (Thailand) Ltd. เป็นสักขีพยาน ในการแต่งตั้ง EFORL เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ GE ในกลุ่ม Enterprise Digital Solutions ในประเทศไทย โดยเริ่มทำตลาดจาก GE CentricityTM Cardio Enterprise ซึ่งเป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลด้านหัวใจ และหลอดเลือดแบบครบวงจร โดยมีโรงพยาบาลชั้นนำที่เป็นกลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ GE CentricityTM Cardio Enterprise จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการข้อมูลภาพ และภาพเคลื่อนไหวทางการแพทย์ ในการวินิจฉัย และวางแผนการรักษาได้อย่างรวดเร็ว และแมนยำยิ่งขึ้น
ซึ่งการเพิ่มการขายสินค้าใหม่ดังกล่าวจะช่วยให้ EFORL ขยายธุรกิจทางด้าน Software Solutions อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธเพิ่มยอดขายจากพื้นฐาน และประสบการณ์ในการขาย และให้บริการในธุรกิจเครื่องมือแพทย์ที่เข็มแข็ง และได้รับการยอมรับจากลูกค้าในตลาดโรงพยาบาลอยู่ก่อนแล้ว
อนึ่ง บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโต 15% จากปีก่อน รวมทั้งพยายามแก้ไขปัญหา ของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ EFORL ในการแก้ปัญหาการขาดทุน และการติดเครื่องหมาย "C" (Caution) ทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ พยายามผลักดันการขายสินค้าให้มากขึ้นในผลิตภัณฑ์ของ Wuttisak และ Snail8 รวมทั้งการเปิดสาขาในจุดที่มีศักยภาพ และการกลับไปขยายการลงทุนประเทศในกลุ่ม CLMV เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต