กรุงเทพฯ--31 พ.ค.--กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
ก.แรงงาน ปิดคอร์ส เสริมทักษะเด็กช่างยนต์ คาดเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย
เมื่อเร็วๆ นี้ ณ สถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ (AHRDA) จ.สมุทรปราการ นายอนุชา ละอองพันธ์ ผู้อำนวยการ สถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ เป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตรยกระดับฝีมือแรงงาน สาขางานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ หลักสูตร 150 ชั่วโมง 5 โมดูล ได้แก่ 1. การควบคุมไฟฟ้ารีเลย์ใน อุตสาหกรรม 2. นิสัยอุตสาหกรรม 3. การบำรุงรักษาเครื่องจักรเบื้องต้น 4. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการผลิต และ 5. การเชื่อมแม็กสำหรับการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นการบูรณาการความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐระหว่าง สถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ (AHRDA) ในสังกัด กพร.และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา ซึ่งประกอบอาชีพเกี่ยวข้องกับด้านยานยนต์และชิ้นส่วน โดยมุ่งเน้นให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ และ ทักษะ สามารถปฏิบัติงานได้จริง ในสถานประกอบการตามนโยบายของกระทรวงฯ และยกระดับทักษะฝีมือให้เป็นแรงงานคุณภาพ (super worker) รองรับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ในพื้นที่ EEC
นายอนุชา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา สถาบันพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมยานยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ เร่งดำเนินการพัฒนาฝีมือแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ เพื่อให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาโดยตลอด เพื่อเป็นการช่วยยกระดับฝีมือแรงงานไทยในภาคอุตสาหกรรมนี้ให้สูงขึ้นตามนโยบาย 3 A ของกระทรวงแรงงาน และป้อนสู่ตลาดอุตสาหกรรมนี้ให้เพียงกับความต้องการ และการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับกำลังแรงงาน ที่จะเข้าสู่สถานประกอบกิจการซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ขององค์กร เพื่อเป็นการแก้ปัญหาด้านการบริหารจัดการในภาคธุรกิจยานยนต์ในอนาคต
"หวังว่าผู้ผ่านการฝึกอบรมทั้ง 107 คน จาก 8 สถาบันการศึกษา จะได้นำความรู้ ทักษะ และแนวคิดใหม่ๆกลับไปใช้ในการปฏิบัติงานจริงสถานประกอบกิจการ อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ เพื่อเป็นการเพิ่มผลิตภาพแรงงาน และ ขีดความสามารถในการแข่งขันในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมหลักที่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ต่อไป". นายอนุชา กล่าว