กรุงเทพฯ--5 มิ.ย.--เอบีเอ็ม คอนเนค
ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ก้าวหน้าทำให้มนุษย์มีความสะดวกสบายมากขึ้นจนอาจละเลยความรับผิดชอบที่พึงมีต่อสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของการขาดความตระหนักถึงผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อธรรมชาติ ได้แก่ ปัญหาเรื่องขยะโดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะพลาสติก ทุกวันนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เจอกับพลาสติกอยู่ในชีวิตประจำวันรอบตัวเรา และด้วยการใช้และทิ้งพลาสติกอย่างละเลยทำให้นับวันก็ยิ่งเกิดการสะสมอยู่ในผืนดินและในทะเลของเรามากขึ้นเรื่อยๆ หากเราไม่ร่วมมือกันใช้พลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ รวมทั้งจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในระยะยาว
ด้วยเหตุนี้ เนสท์เล่ จึงได้จัดกิจกรรมเพื่อรวมพลังอาสาสมัครเนสท์เล่รักษ์โลกกว่า 200 คน ภายใต้โครงการ Nestle CARES ร่วมกันเก็บขยะและทำความสะอาดชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี เนื่องใน วันทะเลโลก (World Oceans Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 8 มิถุนายนของทุกปี นำทีมโดยผู้บริหารและพนักงานเนสท์เล่ รองนายกเทศมนตรีเมืองแสนสุขและเหล่าจิตอาสา ร่วมกันเก็บและแยกขยะบริเวณชายหาดบางแสน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขยะขนาดเล็ก เช่น หลอด หนังยาง ฝาขวด และนำบางส่วนกลับไปใช้ประโยชน์ ผ่านโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ "ยางยืดเปลี่ยนชีวิต" ของมหาวิทยาลัยบูรพาที่นำหนังยางที่ใช้แล้วไปทำเป็นอุปกรณ์ออกกำลังกาย เพื่อช่วยบำบัดโรคให้แก่เด็ก ผู้ป่วย ผู้พิการ และผู้สูงอายุ รวมทั้งโครงการหมอนหลอดเพื่อสุขภาพ (Healthy Pillow) ป้องกันแผลกดทับ โดยนำหลอดพลาสติกไปทำเป็นไส้หมอน ร่วมกับกลุ่มแม่บ้าน อสม. อาสาสมัครแสนสุขร่วมใจ เพื่อมอบให้ผู้ป่วยติดเตียงตามโรงพยาบาลต่างๆ ต่อไป นอกจากนี้ ยังมีการให้ความรู้เพื่อส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ร่วมกันใช้พลาสติกและจัดการขยะพลาสติกอย่างมีความรับผิดชอบ
เนสท์เล่ยังร่วมกับองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) นำทีมจิตอาสาพนักงานในโรงงานเนสท์เล่ จังหวัดสุราษฏ์ธานี และพนักงานเนสท์เล่หน่วยอื่นๆ ในภาคใต้ จัดกิจกรรมเก็บขยะที่ชายหาดจังหวัดสุราษฎ์ธานี เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับพื้นที่ที่เนสท์เล่เข้าไปมีส่วนร่วมและดำเนินธุรกิจ นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมปล่อยลูกปูม้าจำนวนกว่า 300,000 ตัว ที่เกาะเสร็จ เพื่อสร้างสมดุลให้กลับคืนสู่ระบบนิเวศของท้องทะเลไทยอีกด้วย
นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า "เนสท์เล่ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมมุ่งมั่นดำเนินการเพื่อรับมือกับปัญหาขยะพลาสติกที่สร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติ จึงจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้คนไทยตระหนักถึงปัญหาด้านการใช้พลาสติกที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากภายในบริษัทสู่ภายนอก ตอกย้ำเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) ในโอกาส วันทะเลโลก (World Oceans Day) เราได้รวมพลจิตอาสารักษ์โลก Nestle CARES ซึ่งเป็นพนักงานของเนสท์เล่และครอบครัวกว่า 200 คนมาร่วมกันเก็บและแยกขยะบริเวณชายหาดบางแสน จังหวัดชลบุรี และชายหาดแหลมทรายที่จังหวัดสุราษฎ์ธานี สร้างแรงบันดาลใจในการลดการใช้พลาสติก รวมทั้งการใช้พลาสติกอย่างคุ้มค่าและมีความรับผิดชอบ ตลอดจนการจัดการขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้หลักการ Reduce Reuse Recycle พร้อมร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานต่างๆ เพื่อผลักดันให้คนไทยทุกคนร่วมกันจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกนี้อย่างจริงจัง และดูแลทะเลไทยให้คงความอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม"
"กิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นการเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมของทุกภาคส่วน ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน เพื่อร่วมกันลดจำนวนขยะพลาสติกบนชายหาดและทะเลอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการเก็บและคัดแยกอย่างถูกวิธี พร้อมนำไปรีไซเคิลให้เกิดประโยชน์ต่อไป นับเป็นการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนอย่างยั่งยืนร่วมกัน" นายวิคเตอร์ กล่าวเสริม
นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า "หาดบางแสนเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชลบุรีมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ภูมิทัศน์ของหาดบางแสนที่เป็นแอ่งกระทะและเป็นอ่าวที่รับลมจึงได้รับผลกระทบเรื่องสิ่งแวดล้อมและขยะมานานแล้ว ซึ่งจะมีอยู่สองประเภทคือ ขยะจากการท่องเที่ยวและขยะที่มาจากทางทะเล ในฐานะคนในพื้นที่ ทางเทศบาลฯ จะจัดกิจกรรม 'สัปดาห์แสนสุขสะอาด' ที่ร่วมกับหน่วยงานและชุมชนปีละ 3-4 ครั้ง โดยผู้บริหารจะมาร่วมลงมือทำให้ประชาชนได้เห็นเป็นแบบอย่าง ส่วนผมเองเวลามาวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าก็จะเก็บขยะริมหาดเป็นประจำ ปัจจุบันที่หาดบางแสนเรามีภาคเอกชนและหน่วยงานราชการเข้ามาช่วยเหลือด้านนี้พอสมควร แต่สำหรับกิจกรรมเนื่องในวันทะเลโลกครั้งนี้ที่เนสท์เล่ได้เข้ามาทำกิจกรรมเก็บขยะริมชายหาด ก็รู้สึกดีใจเพราะเป็นบริษัทชั้นนำของโลกในฐานะผู้ผลิตที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม อยากให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ มีแนวคิดแบบนี้ โดยมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือทั้งสังคมและสิ่งแวดล้อม เนสท์เล่ไม่ได้ช่วยเหลือเพียงเรื่องของการเก็บขยะ แต่ยังมีการต่อยอดนำขยะที่เก็บมาไปใช้ทำอย่างอื่นได้ เช่น นำหนังยางมาทำเป็นอุปกรณ์ช่วยในการยืดออกกำลังสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์แทนการเก็บไปทิ้งเพียงอย่างเดียว ทำให้ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมทราบถึงปัญหาที่แท้จริงว่าปัญหาขยะจากทะเลนั้นเราต้องมีหลายมิติในการที่จะแก้ไขระยะยาวด้วย"
"Nestle CARES" เป็นโครงการที่เริ่มต้นจากเหล่าจิตอาสาซึ่งเป็นพนักงานของเนสท์เล่ทั่วโลก ในการทำกิจกรรมอาสาต่างๆเพื่อสนับสนุนเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future) โดยในโอกาสวันทะเลโลก (World Oceans Day) ครั้งนี้ พนักงานจิตอาสาในแต่ละประเทศได้จัดกิจกรรมเก็บขยะและทำความสะอาดชายหาดและแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติก เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนสท์เล่ได้ให้คำมั่นสัญญาในระดับโลกในการผลักดันให้บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์เนสท์เล่ทั่วโลกสามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด 100% ภายในปี 2025 โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมาเนสท์เล่ได้เริ่มลดการใช้หลอดพลาสติก พร้อมส่งเสริมการใช้พลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ในอัตราที่สูงขึ้น และเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่มีโครงสร้างไม่ซับซ้อนเพื่อให้สามารถรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้เกิดความก้าวหน้าในการรับมือกับปัญหาขยะพลาสติกในระดับโลกอย่างจริงจัง