กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--เจริญโภคภัณฑ์อาหาร
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกปี 2548 นี้ มีแนวโน้มรายได้และกำไรสุทธิของบริษัทฯ ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเพราะตลาดกุ้งและไก่แปรรูปปรุงสุก มีแนวโน้มการส่งออกที่ดีมาก
โดยคาดว่าในปี 2548 บริษัทจะมีรายได้จากการขายจะเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 91,790 ล้านบาท เป็น 100,000 ล้านบาท ด้วยเหตุผลของปัจจัยประกอบในแง่บวก อันได้แก่ อุตสาหกรรมการส่งออกกุ้งของประเทศไทยมีแนวโน้มว่าจะส่งออกกุ้งได้เพิ่มขึ้น 30% จากปีก่อนที่ส่งออกได้ 2.4 แสนตัน เนื่องจากปัญหาการฟ้องทุ่มตลาดกุ้ง (เอดี) จากสหรัฐอเมริกาหมดไป จากการที่สหรัฐฯได้ประกาศการเรียกเก็บภาษีการทุ่มตลาดแล้วอย่างชัดเจน โดยเรียกเก็บกุ้งไทยที่ 5.9% ในขณะที่เรียกเก็บจากจีน ซึ่งเป็นคู่แข่งของไทยสูงถึง 55% อินเดียและบราซิลเก็บ 10% จะมีเพียงเวียดนามและเอกวาดอร์เท่านั้น ที่เรียกเก็บต่ำกว่าประเทศไทย แต่ทั้งสองประเทศนี้ก็ไม่ใช่คู่แข่งของไทยแต่อย่างใด เพราะเป็นกุ้งคนละประเภท
ขณะที่ ไก่แปรรูปปรุงสุกของประเทศไทยก็มีแนวโน้มที่จะส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 30% เป็น 2.1 แสนตัน เนื่องจากเมื่อเดือนที่แล้ว สหภาพยุโรปและญี่ปุ่น ได้ให้การอนุมัตินำเข้าสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุกจากโรงงานของไทยหลายแห่งด้วยกัน ในจำนวนนี้มีโรงงานแปรรูปไก่แห่งใหม่ ณ จังหวัดนครราชสีมาของซีพีเอฟด้วย ซึ่งโรงงานใหม่นี้เพิ่งจะแล้วเสร็จ และได้เพิ่มกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ เพื่อรองรับคำสั่งซื้อไก่ปรุงสุกจากทั้งสองภูมิภาคดังกล่าว นอกจากนี้ภาวะการบริโภคเนื้อไก่ ของผู้บริโภคในประเทศก็ดีขึ้น เพราะปัญหาไข้หวัดนกคลี่คลาย ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นกลับมาบริโภคเนื้อไก่เช่นเดิม โดยปัจจุบันราคาไก่มีชีวิตอยู่ที่ 33-34 บาท/กก.
นายอดิเรก ยังกล่าวอีกว่า จากการที่บริษัทได้ลงทุนก่อสร้างโรงงานและพัฒนาธุรกิจเมื่อ 2-3 ปี ที่ผ่านมา จะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯ ดีขึ้นมากอย่างชัดเจน ในปี 2548-2549
สำนักสารนิเทศ CPF โทร. 0-2625-7344-5--จบ--