กรุงเทพฯ--3 มิ.ย.--ปภ.
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 2 — 5 มิถุนายน 2548 นี้ สภาพอากาศในประเทศจะแปรปรวนมาก โดย ร่องฝนจะเลื่อนพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ซึ่งลักษณะเช่นนี้ ทำให้ทั่วทุกภูมิภาคของไทยมีฝนตกชุก และฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง และคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามัน อ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น สูงประมาณ 2 — 3 เมตร ส่วนพื้นที่ห่างฝั่งในบริเวณที่ฝนฟ้าคะนอง จะมีคลื่นสูง 3 — 5 เมตร ในระยะ 4 — 5 วันนี้ โดยเฉพาะด้านริมฝั่งทะเลอันดามัน ได้แก่ ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง และสตูล จะมีฝนตกชุก และหนักมากในบางแห่งในการนี้ จึงขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม พื้นที่ลาดเชิงเขา ของพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มด้วย โดยในช่วงก่อนเกิดภัยน้ำท่วม ดินถล่ม มักมีสัญญาณผิดปกติทางธรรมชาติ ดังนี้ ฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันเกินกว่า 6 ชั่วโมง ระดับน้ำในแหล่งน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สีของน้ำเปลี่ยนเป็นสีดินของภูเขา เช่น สีแดง สีดำอมเทา มีเสียงดัง เนื่องจากต้นไม้ล้ม หินกลิ้งลงมาตามลาดเขา สัตว์ป่าแตกตื่นในระหว่างหรือหลังจากฝนตกหนักใหม่ๆ บนภูเขา หากสังเกตพบสัญญาณผิดปกติดังข้างต้น ให้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจเกิดน้ำป่า หรือดินถล่มในบริเวณใกล้เคียง
นายสุนทร กล่าวต่อไปว่า ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยง ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด และสังเกตสิ่งแวดล้อมรอบตัว หากพบสัญญาณความผิดปกติดังข้างต้น ต้องรีบอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยในทันที อย่ามัวแต่ห่วงทรัพย์สมบัติ ให้พยายามรักษาชีวิตตนเองไว้เป็นดีที่สุด ส่วนชาวเรือให้ระมัดระวังในการเดินเรือในระยะ 4 — 5 วันนี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง และ ติดตามข่าวสารการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไข สถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนทราบ ล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือและป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้ สั่งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตามตรวจสอบเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว หากพื้นที่ใดมีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้น จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ และเครื่องมือ เครื่องจักรกล ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันที--จบ--