กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงมหาดไทย กระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีด้วยการจัดงานใหญ่ "OTOP Midyear 2019 : OTOP Signature รักษาเอกลักษณ์ สร้างนวัตกรรม" แสดงศักยภาพสินค้าชุมชนที่ได้รับการยอมรับจากผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีและเพิ่มช่องทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการ OTOP คาดว่าตลอดการจัดงาน 9 วัน จะสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้า OTOP ไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาท
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน "OTOP Midyear 2019 : OTOP Signature รักษาเอกลักษณ์ สร้างนวัตกรรม" โดยมี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมแถลงข่าว ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เวสต์เกต
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า งาน "OTOP Midyear" ถือเป็นงานส่งเสริมการตลาดสินค้า OTOP และกระตุ้นเศรษฐกิจกลางปีที่สำคัญงานหนึ่งของประเทศไทย ผ่านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับฐานรากให้เติบโต เข้มแข็ง และเชื่อมโยงไปยังเศรษฐกิจระดับมหภาค เป็นไปตามยุทธศาสตร์แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) ที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน เพื่อนำไปสู่ความมีเสถียรภาพทางรายได้ ลดความยากจน ทั้งนี้ รัฐบาลยังสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ รวมทั้งส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสินค้า OTOP รู้จักปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคม ตามแนวคิดประเทศไทย 4.0 โดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาและยกระดับสินค้า แต่ยังคงคุณค่าและรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนทั้งตลาดในประเทศและระดับสากล
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า กระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะอนุกรรมการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ระดับภูมิภาค ได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนโดยการยกระดับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ สินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมทั้งส่งเสริมด้านการตลาดให้มีศักยภาพมากขึ้น เช่น จัดให้มีการยกระดับผลิตภัณฑ์เป็นสินค้า Brand Name, ศิลปิน OTOP, สินค้า OTOP ส่งออก, OTOP Innovation ,ชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี ,ส่งเสริมผู้ผลิต - ผู้ประกอบการ OTOP จำหน่ายสินค้าบน Platform, ส่งเสริมการจัดจำหน่าย OTOP บนเครื่องบิน, จัดให้มี OTOP Trader ส่งเสริมการตลาด อีกทั้งกระทรวงมหาดไทยยังมีนโยบายให้จังหวัดและอำเภอจัดโครงการตลาดประชารัฐคนไทยยิ้มได้ เพื่อเพิ่มรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น
ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า การจัดงาน "OTOP Midyear 2019 : OTOP Signature รักษาเอกลักษณ์ สร้างนวัตกรรม" เป็นการรวบรวมผู้ประกอบการสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีศักยภาพกว่า 2,000 บูท ภายใต้กิจกรรมที่หลากหลาย ประกอบด้วย 1. การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดี ศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เกี่ยวข้องกับพิธีบรมราชาภิเษก 2. การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ Highlight (OTOP Signature "ผลิตภัณฑ์เอกลักษณ์", OTOP Innovation, ศิลปิน OTOPและชุมชนท่องเที่ยวนวัตวิถี 4 ภาค รวม 8 หมู่บ้าน) 3. การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP 5 ประเภทจากทั่วประเทศ Young OTOP, OTOP Trader, OTOP Premium และสุดยอดผลิตภัณฑ์เด่นจังหวัด ผลิตภัณฑ์ที่นำไปจัดแสดงและจำหน่ายในต่างประเทศ 4. OTOP ชวนชิมและถนนอาหาร (Street Food) จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับของแต่ละพื้นที่ นอกจากนั้นยังมีอาหารถิ่นรสไทยแท้ 25 เมนู ทั่วประเทศและอาหารรสไทยแท้ที่ผ่านการประกวด 5. Health & Spa จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Health & Spa พร้อมบริการนวดผ่อนคลายเพื่อสุขภาพ 6. กิจกรรมการจัดนิทรรศการของหน่วยงานภาคี
"งาน OTOP Midyear ในปีนี้ เราจัดอย่างยิ่งใหญ่ในรูปแบบวิถีไทย วิถีถิ่น วิถีกิน สี่ภาค เพื่อให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้เลือกซื้อสินค้า OTOP อัตลักษณ์จังหวัด รวมถึงสินค้า OTOP นวัตกรรมทั่วไทย เรียกได้ว่าเป็นงานที่รวมของดี มีของครบ พบนวัตกรรม ซึ่งนอกจากจะมีสินค้าคุณภาพมากมายให้เลือกซื้อแล้ว ยังมีกิจกรรมความบันเทิงจากศิลปินอัดแน่นตลอดทั้ง 9 วันด้วย" อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนกล่าว
ทั้งนี้ งาน "OTOP Midyear 2019 : OTOP Signature รักษาเอกลักษณ์ สร้างนวัตกรรม" จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 15 – 23 มิถุนายน 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 - 3 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาเป็นประธานในพิธีเปิด ในวันอาทิตย์ ที่ 16 มิถุนายน 2562 โดยคาดว่าจะมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมงานตลอดทั้ง 9 วัน ไม่น้อยกว่า 400,000 คน เงินสะพัดตลอดทั้งงานไม่น้อยกว่า 900 ล้านบาทเป็นการจัดงานระดับประเทศ มีความพิเศษ และมีกิจกรรมที่หลากหลาย ในการจัดงานครั้งนี้ มีการแสดงและจำหน่ายสินค้ามากกว่า 2,000 บูท และจัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมการขาย ประกอบด้วย การแสดงดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรมภาคต่างๆ