กรุงเทพฯ--7 ก.พ.--กปส.
พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใหม่ เน้นมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน และการพัฒนาตนเองของข้าราชการ ยกเลิกเงินเดือนแบบเดิม กำหนดบัญชีเงินเดือนหลากหลายแยกตามประเภทตำแหน่ง แล้วพิจารณาการขึ้นเงินเดือนตามสภาพการทำงานและผลงานที่เกิดขึ้นจริง ส่วนข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์ไม่น้อยกว่าข้าราชการพลเรือน
นายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร แจ้งถึงร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใหม่ ว่า จากบทบัญญัติของร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดให้มีการเปลี่ยนแปลงจากระบบซีของข้าราชการเป็นระบบแท่ง การปฏิบัติงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อลงพระปรมาภิไธย แต่ทั้งนี้ในส่วนของกรุงเทพมหานครยังสามารถนำ พ.ร.บ.ฉบับปัจจุบันใช้ได้ต่อไป เว้นแต่ว่ากรุงเทพมหานครจะนำบางส่วนหรือทั้งหมดของ พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ภายหลังการประกาศใช้แล้วมาปรับใช้ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้หากจะนำ พ.ร.บ.ฉบับใหม่มาใช้ต้องเป็นไปโดยมติของคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ก.ก.) โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนของสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญทุกคนจะได้รับสิทธิประโยชน์ไม่น้อยกว่าสิทธิประโยชน์ของข้าราชการพลเรือน
สำหรับสาระของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนฉบับใหม่จะเน้นการจัดระเบียบข้าราชการเพื่อผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ ความมีประสิทธิภาพและความคุ้มค่า ให้ข้าราชการปฏิบัติราชการอย่างมีคุณภาพ คุณธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีการปรับปรุงระบบตำแหน่งและประเภทตำแหน่งของข้าราชการ แบ่งตามลักษณะงาน ประเภทตำแหน่งงาน เพื่อจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรม จากเดิมกำหนดประเภทตำแหน่งเป็น 3 ประเภท คือ ประเภททั่วไป ประเภทวิชาชีพหรือเชี่ยวชาญเฉพาะ และประเภทบริหารระดับกลางหรือระดับสูง เปลี่ยนเป็น 4 ประเภท คือ 1. ประเภททั่วไป มีระดับปฏิบัติงาน ระดับชำนาญงาน ระดับอาวุโส และระดับทักษะพิเศษ 2. ประเภทวิชาการ มีระดับปฏิบัติการ ระดับชำนาญการ ระดับชำนาญการพิเศษ ระดับเชี่ยวชาญ และระดับทรงคุณวุฒิ 3. ประเภทอำนวยการ มีระดับต้นและระดับสูง 4. ประเภทบริหาร มีระดับต้นและสูง ซึ่งจะมีการปรับปรุงบัญชีเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งให้สอดคล้องกับผลงานและการพัฒนาตนเองของข้าราชการ โดยกำหนดบัญชีเงินเดือนที่หลากหลายมากขึ้น แยกตามประเภทตำแหน่ง ยกเลิกระบบเงินเดือนแบบเดิม แล้วพิจารณาการขึ้นเงินเดือนตามสภาพการทำงานและผลงานที่เกิดขึ้นจริง