กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน)
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เดินหน้าลงพื้นที่เป้าหมายในโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับอย่างยั่นยืนใน 10 จังหวัด เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ตาก พังงา สตูล ตราด กาญจนบุรี นครราชสีมา และ แพร่ เปิดอบรมหลักสูตรด้านอัญมณีศาสตร์ ทักษะเชิงช่าง การออกแบบเครื่องประดับ รวมถึงความรู้ด้านธุรกิจและการตลาดในยุคดิจิตัล เพื่อต่อยอดสร้างสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น และสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน
นางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการ พร้อมคณะทำงานจาก GIT ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประชุมร่วมกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ อาทิ พาณิชย์จังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด พัฒนาชุมชนจังหวัด ฯลฯ ผู้แทนสถาบันการศึกษา และผู้ประกอบการเครื่องเงิน/เครื่องประดับเงินในพื้นที่ หารือแนวทางการสร้างความร่วมมือดำเนินงานโครงการพัฒนารูปแบบและคุณภาพสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาคอย่างยั่งยืน ณ ห้องประชุม สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจังหวัดเชียงใหม่นั้นเป็นจังหวัดที่ดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2561 ที่ผ่านมา เนื่องจากได้รับผลตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการเป็นอย่างมาก โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสามารถต่อยอด พัฒนาสินค้า และสามารถเพิ่มยอดขายให้ผู้ประกอบการเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 50
โครงการพัฒนารูปแบบและคุณภาพสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาคอย่างอย่างยืนนี้ มีพื้นที่เป้าหมายดำเนินงานใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และ ภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาค เพิ่มโอกาสการค้า สร้างรายได้เพิ่มขึ้น อันจะนำไปสู่ความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนในภูมิภาคอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากโครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับในภูมิภาคในปีที่ผ่านมาให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น
โดยโครงการดังกล่าว มุ่งพัฒนาและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับไทยได้เติบโตอย่างเข้มแข็งตั้งแต่ระดับฐานราก และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างยั่งยืน โดยการใช้อัตลักษณ์อันโดดเด่นในแต่ละภูมิภาค มาปรับใช้ในการออกแบบเครื่องประดับให้มีความสวยงาม และร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าไทยสู่สากล พร้อมส่งนักออกแบบชื่อดังมาร่วมค้นหาอัตลักษณ์และสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งนักออกแบบแต่ละท่านจะดึงจุดเด่นที่น่าสนใจของแต่ละจังหวัด และเครื่องประดับในท้องถิ่น มาปรับให้ร่วมสมัย สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ สถาบันยังช่วยขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับผลงานการออกแบบเครื่องประดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากจังหวัดข้างต้น โดยสินค้าภายใต้โครงการจะถูกนำมาจำหน่าย ณ TEMP Pop-Up Store by GIT บริเวณชั้น 1 อาคารไอทีเอฟ ทาวเวอร์ ถนนสีลม และนำไปจัดแสดงภายในงานแสดงสินค้าบางกอกเจมส์แอนด์จิวเวลรี่แฟร์ ครั้งที่ 64 ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายตลาดสินค้าไทยจากชุมชนสู่ตลาดสากล