กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บล.โกลเบล็ก มองหุ้นไทยจับตาการประชุม กนง. และเฟด แถลงมติอัตราดอกเบี้ย แม้ปัจจัยภายในประเทศการขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นมีความผันในกรอบ 1,660-1,693 จุด จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนหุ้นที่ติดโผ SET50 และหุ้น Theme EEC ส่วนด้านราคาทองคำแนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ1,330-1,360 ดอลลาร์
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยตอบรับปัจจัยบวกจากในประเทศ และต่างประเทศ โดยเฉพาะการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสหกรรมในเดือนพ.ค.ปรับเพิ่มขึ้นจากยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ และคาดว่าจะเห็นรัฐบาลใหม่เร่งรัดลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ช่วยเอื้อต่อการลงทุนจากต่างประเทศและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัว รวมทั้งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจีนอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือปรับลดอัตราสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เร็วๆนี้ เพื่อรับมือภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ส่วนปัจจัยลบที่ยังคงกดดันตลาดหุ้นไทยมาจากการระงับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนยังไม่มีความชัดเจน ขณะที่รมว.พาณิชย์สหรัฐคาด "ทรัมป์-สี จิ้นผิง" อาจไม่มีการทำข้อตกลงการค้าในการประชุม G20 และอินเดียประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 28 รายการมีผล 16 มิ.ย. เพื่อตอบโต้การที่สหรัฐตัดตัดสิทธิ GSP ทำให้มีความกังวลต่อสถานะของประเทศไทยเนื่องจากใช้สิทธิ GSP สูงเป็นอันดับ 2 ของเอเชียรองจากอินเดีย ส่วนปัจจัยลบในประเทศมาจากปัจจัยการเมืองที่การจัดตั้งครม.ชุดใหม่ยังไม่ลงตัวและคาดจะมีคะแนนเสียงข้างมากไม่มาก
นอกจากนี้ยังคงต้องจับตาวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ทางอียู เปิดเผย ดุลการค้าเดือนเม.ย. อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนมิ.ย. และสหรัฐ เปิดเผย ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้าง พ.ค. และวันที่ 19 มิ.ย. ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งที่ 4/2562 รวมทั้ง กสทช.เปิดรับคำขอใบอนุญาตคลื่นความถี่ 700 MH และสหรัฐ เปิดเผย สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย
ด้านนายสรรพกัณฑ์ ปัมทบริสุทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยยังมีแนวโน้มผันผวน ซึ่งนักลงทุนควรรอฟังความชัดเจนของนโยบายการเงินจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ คาดดัชนี SET จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,660-1,693 จุด โดยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น Theme EEC play เช่น AMATA, WHA, WHAUP, WHART, EASTW, ATP30, ORI รวมทั้งหุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณดัชนี SET50 เช่น SAWAD, OSP, VGI คาดจะประกาศกลางเดือนมิ.ย.นี้
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยตลาดเชื่อว่าจะยังไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แต่คาดหวังให้ประธาน Fed ส่งสัญญาณหรือระบุถึงโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งในกรณีที่แนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯกำลังจะเข้าสู่ขาลง คาดว่าเงินดอลลาร์จะปรับแข็งค่าต่อ และเงินทุนจะไหลเข้าเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น แต่ถ้าเป็นกรณีที่ Fed ยืนยันว่าจะคงดอกเบี้ยไปตลอดทั้งปีนี้ คาดว่าราคาทองคำจะได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากภาวะสงครามการค้าที่ไม่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ได้ จึงประเมินกรอบราคาทองคำสัปดาห์นี้อยู่ระหว่าง 1,330-1,360 ดอลลาร์ และแนะนำกลยุทธ์การลงทุนเป็นเก็งกำไรระยะสั้นในกรอบดังกล่าว