กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--อินทิเกรเต็ด คอมมูนิเคชั่น
เมื่อปีที่ผ่านมา ประเทศไทย ได้รับการยกย่องในการประชุม London Conference Illegal Wildlife Trade หรือการประชุมเพื่อช่วยกันแก้ปัญหาการค้าสัตว์ป่า ครั้งที่ 4 ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าเป็นประเทศผู้นำในกลุ่มประเทศเอเชียที่มีความจริงจังในการแก้ปัญหาเรื่องการบุกรุกทำลายป่าและการลักลอบล่าสัตว์ โดยมีการนำระบบลาดตระเวนเชิงคุณภาพ หรือ สมาร์ท พาโทรล (Smart Patrol) มาใช้ทำงานเพื่อการลาดตระเวนป่า และตัวชี้วัด คือ จำนวนสัตว์ป่าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เสือโคร่ง ซึ่งเป็นสัตว์ผู้ล่าอันดับหนึ่งในระบบนิเวศ
นับเป็นความเข้มแข็งของหน่วยงานภาครัฐในการปกป้องดูแลผืนป่าและทรัพยากรธรรมชาติของไทย และฟันเฟืองที่สำคัญนั่นคือ "ผู้พิทักษ์ป่า" เขาเหล่านี้คือ "ฮีโร่" ผู้เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ท่ามกลางความเสี่ยงและอันตรายรอบด้าน
อีกมุมหนึ่งที่สะท้อนความเป็น "ฮีโร่" และหัวใจรักในหน้าที่ได้อย่างชัดเจน โดยกลุ่มผู้พิทักษ์ป่าที่ปฏิบัติหน้าที่ดับไฟป่า ได้เปิดใจบอกเล่าถึงความรู้สึกและความภาคภูมิใจในการปฏิบัติหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ ผ่านช่วงหนึ่งของการเสวนาพิเศษ "HEROES ON FIRE" ในงานแถลงข่าวเดินหน้าโครงการ "HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า" ปีที่2 ที่มูลนิธิเอสซีจี ได้จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
"ดำเนิน ยอดติ่ง" หัวหน้าชุดปฏิบัติการไฟป่า ประจำศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า จ.เชียงราย กล่าวว่า "ไฟป่าที่เกิดขึ้น ไม่ได้สร้างความเสียหายแค่พื้นที่ป่าเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลกระทบต่อชีวิตของสัตว์ป่า และเกิดมลพิษทางอากาศจากกลุ่มควันที่เกิดขึ้น ไฟป่าที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้งส่วนใหญ่ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะดับไฟได้ในเวลาใด ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ว่ามีความลาดชันหรือไม่ เชื้อเพลิงลุกโหมรุนแรงแค่ไหน และในบริเวณนั้นมีสภาพอากาศเป็นอย่างไร หากมีลมโหมรุนแรงก็จะใช้เวลาในการดับไฟมากขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระวังและไม่ประมาทในการปฏิบัติหน้าที่"
"สมพร วังษา" เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการไฟป่า ประจำศูนย์ปฏิบัติการไฟป่า จ.เชียงราย กล่าวว่า"สาเหตุของการเกิดไฟป่า มาจากทั้งพฤติกรรมของมนุษย์ ที่มีการเผาป่าในหน้าแล้งเพื่อทำการเกษตร รวมทั้งการเผาใบไม้แห้งเพื่อให้สะดวกในการล่าสัตว์และหาของป่า และอีกส่วนหนึ่งมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ซึ่งเมื่อเกิดไฟป่าขึ้นในหลายจุดพร้อมกัน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถดับไฟได้ทัน ส่งผลให้ไฟลุกลามเกิดความเสียหายในวงกว้าง ซึ่งหลังจากที่ดับไฟป่าได้สนิทแล้ว เจ้าหน้าที่จะยังไม่ออกจากพื้นที่ ต้องเฝ้าระวังก่อนโดยเดินตรวจสภาพตอไม้ ขอนไม้ใหญ่ หรือกิ่งไม้ว่าจะมีการปะทุขึ้นมาอีกหรือไม่ เรียกได้ว่าต้องใช้ชีวิตอยู่ในป่าเป็นเวลาหลายวันด้วยอุปกรณ์ดำรงชีพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เปลสนาม ฟลายชีท (ผ้าใบกันน้ำ) อาหารกระป๋อง และน้ำดื่ม"
"สุนันท์ อุตส่าห์" เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปราม ที่3 (สปป.3) หน่วยปฏิบัติงานพิเศษที่ 4 สำนักงานจังหวัดกำแพงเพชร กล่าวว่า "เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยจะต้องผ่านการอบรมเพื่อให้มีความชำนาญก่อนลงพื้นที่ดับไฟป่า โดยเฉพาะการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เข็มทิศ วิทยุสื่อสาร และอุปกรณ์ในการดับไฟ ได้แก่ ไม้ตบไฟ ถังน้ำ มีดถางป่า รวมถึง ลาโค่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ถาก ถาง ทำแนวกันไฟ เพื่อการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงความปลอดภัยของตัวเจ้าหน้าที่เอง"
"วีระศักดิ์ น้อยเสนา" เจ้าหน้าที่สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปราม ที่2 ( สปป.2) หน่วยเคลื่อนที่เร็ว จ.หนองบัวลำพู กล่าวว่า "นอกจากเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าแล้ว ยังมีหน่วยลาดตระเวนและหน่วยเคลื่อนที่เร็วคอยเป็นกำลังเสริม ซึ่งทุกหน่วยจะต้องผ่านการฝึกอบรม รวมไปถึงการรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดีว่าเป็นเส้นทางเขา เส้นทางเดิน จุดใดเป็นจุดเสี่ยงที่จะต้องเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าอีกด้วย"
ที่ผ่านมา มีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ตระหนักถึงความสำคัญของผู้พิทักษ์ป่า เช่นเดียวกับมูลนิธิเอสซีจีที่สนับสนุนผู้พิทักษ์ป่าอย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากโครงการ "Sharing the Dream Scholarship" สนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่บุตรธิดาของผู้พิทักษ์ป่า ช่วยแบ่งเบาภาระให้เจ้าหน้าที่ได้มีกำลังใจปฏิบัติงานโดยไม่ต้อง "ห่วงหน้าพะวงหลัง" นอกจากนี้ยังขยายแนวทางความช่วยเหลือโดยประสานภาคีเครือข่าย เพื่อดำเนินโครงการ "HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า" เริ่มต้นในปี 2561 เป็นการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อระดมทุนและนำรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจัดซื้ออุปกรณ์ลาดตระเวนที่จำเป็นมอบให้แก่ผู้พิทักษ์ป่าทั่วประเทศ โดยที่ผ่านมาได้มอบอุปกรณ์ลาดตระเวน ได้แก่ ชุดเครื่องแบบลายพรางและเป้เดินป่าไปแล้วจำนวน 3,635 ชุด รวมมูลค่า 3.7 ล้านบาท
ปัจจุบัน "HANDS FOR HEROES รวมมือเรา เพื่อคนเฝ้าป่า" เดินหน้าสู่ปีที่ 2 และมีพันธมิตรใหม่ที่มีเจตนารมณ์เดียวกัน เข้าร่วมเป็นพลังสนับสนุนผู้พิทักษ์ป่าเพิ่มขึ้น ได้แก่ บริษัท จีดีเอช ห้าห้าเก้า จำกัด บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด บริษัท โมโน เรดิโอ บรอดคาซท์ จำกัด บริษัท บุญถาวรเซรามิค จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัยเฟสท์ และ บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด เป็นต้น
"ฉันทวิชช์ ธนะเสวี" หรือ "เต๋อ" นักแสดงหัวใจรักษ์โลก กล่าวว่า "บริษัท GDH ต้นสังกัดเห็นความตั้งใจอันดีในการดำเนินโครงการของมูลนิธิเอสซีจี ที่มุ่งช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่าอย่างต่อเนื่อง จึงได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว ส่วนตัวรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการเป็นกระบอกเสียงถ่ายทอดหน้าที่ของผู้พิทักษ์ป่า โดยผมจะสร้างความตระหนักรู้ให้ทุกคนเห็นว่าสิ่งที่ผู้พิทักษ์ป่าทำยิ่งใหญ่และสำคัญต่อโลกใบนี้ สำคัญต่อประเทศเรามากแค่ไหน เพราะผู้พิทักษ์ป่าเป็นบุคคลที่ปิดทองหลังพระ คนทั่วไปยังไม่เคยได้รับรู้ว่าเขาทำอะไรบ้าง ตัวผมจะทำหน้าที่บอกกล่าวกิจกรรมดี ๆ ที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งปี ซึ่ง Run for Heroes วิ่งเพื่อผู้พิทักษ์ป่า จะเป็นกิจกรรมแรกที่จะเกิดขึ้นและผมจะเข้าร่วมวิ่งด้วย เป็นการวิ่งที่ได้ทั้งสุขภาพ และส่งต่อความช่วยเหลือสู่ผู้พิทักษ์ป่า จึงขอเชิญชวนทุกท่านที่มีหัวใจสีเขียวมาวิ่งรวมพลังส่งต่อกำลังใจให้ผู้พิทักษ์ป่าด้วยกันนะครับ"
ผู้ที่ต้องการเป็นอีกหนึ่งมือเพื่อร่วมส่งต่อพลังใจสู่ผู้พิทักษ์ป่า สามารถร่วมกิจกรรม "Run for Heroes" วิ่งเพื่อผู้พิทักษ์ป่า โดยจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2562 เวลา 05.30 - 10.00 น. ณ สวนพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม แบ่งการวิ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.Scout 5 KM. ราคา 600 บาท 2.Mini Ranger 10 KM. ราคา 700 บาท 3.Ranger 21 KM. ราคา 800 บาท และสำหรับผู้ที่ต้องการสมทบทุนเพิ่มเติมยังมี VIP (BIB เลขสวย) ราคา 2,000 บาท ซึ่งการวิ่งทุกระยะจะได้รับเสื้อและเหรียญที่ระลึก นักวิ่งและผู้สนใจสมัครได้ที่ https://www.runlah.com/events/c/rfh19 หรือ โทร. 081-818-6155, 065-992-7397 ส่วนกิจกรรมครั้งต่อไป ได้แก่ Trail for Heroes วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2562 เวลา 05.30 - 10.00 น. ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว
ติดตามข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการ "HANDS FOR HEROES"
ผ่านทาง Facebook : handsforheroes