กรุงเทพฯ--20 มิ.ย.--อะบุ๊ก
a book Sanctuary ไม่ใช่แค่งานหนังสือ อะบุ๊กขอเปิดพื้นที่อบอุ่นแด่นักอ่านทุกคน แฟนอะบุ๊กทุกรุ่น ชวนมาช็อปหนังสือใหม่ แลกหนังสือเก่า และเพื่อนสำนักพิมพ์อีกมากมาย อาทิ Salmon Books, Kai3, p.s. publishing, Spacebar Design Studio, Bookscape, Fullstop Book, Typhoon Studio, Happening Shop, 10 Millimeters, Salt Publishing จะมาร่วมแสดงพลังคนรักหนังสือด้วยกัน และยังมี 14 โปรเด็ด ช็อปจุกคุ้มจัด ที่งาน a book sanctuary ครั้งแรก! จับเชตหนังสืออะบุ๊กและนิตยสารอะเดย์ เพิ่มรอบ Night Owl เอาใจคนเลิกงานค่ำ เตรียมเคลียร์ชั้นหนังสือรอเลย รวมถึงกิจกรรม Lucky Bag หนังสือถุงละ 100 บาท พร้อมมันกับเกมสนุก รวมถึงการแลกหนังสือและแมกกาซีนหายาก ใครอยากได้ไม่มีขายแต่เอาเล่มโปรดมาแลกกัน และฟินกับสเปเชียลอีเว้นต์ อาทิ วรรณคดีไทยไดเจสต์ Fan Art, London Book Sanctuary Talk and Draw, To Read or Not to Read : Editors Talk
ทั้งหมดนี้และมากกว่า จะเกิดขึ้นในงาน a book Sanctuary วันที่ 8 - 11 กรกฎาคมนี้ 10.00 น. - 22.00 น. ที่ Terminal21 ชั้น M – Paris
To Read or Not to Read, That Is My Question (หากโลกนี้ไม่มีหนังสือ)
'ร้านหนังสือแถวบ้านผมกำลังจะปิดตัวลง ผมเป็นคนแรกที่รู้ เพราะพ่อผมเป็นเจ้าของร้าน...'
หนังสือภาพเล่มใหม่จากจิมมี่ เลี่ยว เปิดเรื่องด้วยสถานการณ์คลาสสิกในโลกสมัยใหม่ คนอ่านหนังสือน้อย จนร้านหนังสือต้องปิดกิจการ ทว่าจิมมี่ เลี่ยว ถ่ายทอดเหตุการณ์นี้ผ่านสายตาเด็กชายลูกเจ้าของร้าน ที่จริงๆ แล้วก็ขี้เกียจช่วยพ่อจัดชั้นหนังสือ แต่พอเห็นพ่อเศร้าใจ เขาจึงนัดแนะเพื่อนฝูงมารวมตัว เพื่อช่วยกันตอบคำถามเรียบง่าย...แสนยิ่งใหญ่
ทำไมเราถึงไม่อ่านหนังสือกันอีกแล้ว?
นำเสนอผ่านสไลด์คำคมของนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ทุกยุคสมัย
ความเหนือชั้นของจิมมี่ เลี่ยว คือ เขาไม่ได้เขียนเรื่องนี้เพื่อขอให้คนกลับมาอ่านหนังสือ
แต่เขาสะกิดใจให้คิดอย่างจริงจัง ว่าสุดท้ายการอ่านสำคัญขนาดไหนกันแน่
'การอ่านหนังสือเป็นสิ่งที่ดี แต่การไม่อ่านหนังสือก็ควรเป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน'
นี่คือหนังสือที่ท้าทายสามัญสำนึกในการอ่านของเราอย่างแท้จริง ผ่านภาพวาดของจิมมี่ที่พาเราลอยละล่องไปสู่โลกใบอื่นเสมอ
นักอ่านจะดื่มด่ำหลงใหล และอยากทะยานไปหาหนังสือเล่มโปรดในทันที
ส่วนนักไม่อ่านก็จะรู้สึกว่า...ไม่เห็นเป็นไร...มีหนทางอีกมากมายในการเรียนรู้โลก
เขียนและวาดภาพ: Jimmy Liao
แปล: วีรนาถ โชติพันธุ์
ราคาปก: 350 บาท
UNCOMMON TYPE: some stories | พิมพ์ (ไม่) นิยม
รวมเรื่องสั้น 17 เรื่อง ฝีมือเขียนของทอม แฮงก์ส ที่จะพาคุณไปพบว่าเขาเป็นอะไรซึ่งมากกว่าดาราที่เก่งและนิสัยดี ถ้าคุณคิดว่าเมื่อดาราลุกขึ้นมาเขียนหนังสือ เรื่องที่เขียนคงวนเวียนอยู่กับตัวตน มุขตลก ข้อมูลชีวประวัติซ่อนเร้น เรื่องซุบซิบที่ ฮอลลีวู้ดรีพอร์เตอร์ ยังไม่เคยรายงาน บอกได้ว่าไม่ใช่อะไรแบบนั้นเลย เพราะ UNCOMMON TYPE: some stories เป็นเรื่องแต่งล้วนๆ หลากเนื้อหา หลายลีลา บางเรื่องมาในรูปแบบของเรื่องสั้นทั่วไป บางเรื่องเพี้ยนมาในรูปแบบของบทความหนังสือพิมพ์ประเภทแสบๆ คันๆ ในรูปแบบของนิยายวิทยาศาสตร์ แถมด้วยเรื่องหนึ่งที่เขียนในรูปแบบของบทหนังโดยที่ทุกเรื่องจะมีเครื่องพิมพ์ดีดมาเกี่ยวข้อง
ทอม แฮงก์ส เป็นนักสะสมเครื่องพิมพ์ดีดตัวจริงเสียงจริง เขาเริ่มสะสมเครื่องแรกตั้งแต่ปี 1978 ซึ่งควรจะเรียกว่าซื้อมาใช้เสียมากกว่าสะสม เพราะเขาเป็นดาราที่ขึ้นชื่อว่าชอบตอบจดหมายแฟนๆ (ถ้ามีเวลาตอบ) ด้วยการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดลงบนกระดาษ ใส่ซองติดแสตมป์ส่งมากกว่าช่องทางอื่น ตอนไปถ่ายรูปเพื่อขึ้นปกนิตยสาร แวนิตี้แฟร์ ซึ่งมีธรรมเนียมเชิญดารามาถ่ายคลิปสั้นๆ สำหรับช่วง 'ซีเคร็ต ทาเลนต์ เธียเตอร์' ขณะที่คนอื่นเขาอวดว่าเล่นละครใบ้เป็น กินแมลงได้ รู้จักแสลงภาษาฮีบรู ฯลฯ แต่ความสามารถพิเศษที่ทอม แฮงก์ส อยากอวดคือวิธีเปลี่ยนผ้าหมึกเครื่องพิมพ์ดีดเฮอร์มีส 3000 ดูแล้วบันเทิงอย่างยิ่ง และเชื่อสนิทใจว่านายคนนี้รักชอบและยังใช้งานเครื่องพิมพ์ดีดจริง แม้ว่าโลกของการเขียนอ่านจะถลำลึกไปกับระบบดิจิทัล จนการเปลี่ยนผ้าหมึกเครื่องพิมพ์ดีดดูเป็นเรื่องเซอร์เรียล พอๆ กับการพูดว่า 'หมุนหา'แทนคำว่า 'โทร.หา'
เรื่องสั้นทั้ง 17 เรื่องในมือคุณจะมีเครื่องพิมพ์ดีดหลายรุ่นหลายแบบตัวอักษรเดินเข้าออกฉาก บางเรื่องเกือบจะเป็นนักแสดงนำ หลายเรื่องเป็นนักแสดงสมทบ บางเรื่องเป็นระดับตัวประกอบเดินเข้าออกฉาก ให้เสียงบรรยากาศของสถานที่หรือเป็นพร็อปที่ช่วยบอกยุคสมัยรวมไปถึงบุคลิกและจริตวิสัยของตัวละคร ซึ่งล้วนแต่เป็นกลวิธีการเล่าเรื่องที่มีเสน่ห์มาก
หากรางวัลออสการ์ดารานำชายยอดเยี่ยม 2 ปีซ้อนคือเครื่องการันตีความสามารถของนักแสดงผู้นี้ ชั้นเชิงในฐานะนักเขียนซึ่งทอม แฮงก์ส ฝากไว้ในหนังสือเล่มนี้เด่นโดดจนน่าอิจฉาแค่ไหน ปากคำของสตีฟ มาร์ติน คงบอกได้ดีที่สุด
"กลายเป็นว่าทอม แฮงก์ส ยังเป็นนักเขียนที่ทั้งมีปัญญา ทั้งเฮฮาอารมณ์ขัน สมองขยันปล่อยมุขเซอร์ไพรส์ได้ไม่รู้จักจบ เกลียด"
เขียน: Tom Hanks
แปล: ภาณุ บุรุษรัตนพันธุ์
ราคาปก: 395 บาท
London Book Sanctuary
พร้อมไหม ที่จะหล่นลงไปในโพรงกระต่ายหน้าตาเหมือนร้านหนังสือ
London Book Sanctuary พาคุณตะลอนเที่ยวร้านหนังสือเล็กๆ แต่มหัศจรรย์ทั่วกรุงลอนดอนไปกับศิลปินสาวน้อย ฟาน.ปีติ พร้อมสนทนาเพลิดเพลินกับมนุษย์หนังสือหลากหลาย สำหรับคนรักหนังสือ ลอนดอนคือบ้านอันอบอุ่นและปลอดภัย หรือหากคุณแค่หมดกำลังใจ เรารับรองว่าทุกร้านที่ฟานพาไปจะจุดประกายความฝันใหม่ๆ ให้แก่คุณ
ไม่ว่าจะเป็น...
ร้านหนังสือ cookbook ที่เปิดร้านอาหารอยู่ด้านในด้วย ทดลองทำเมนูจากตำราที่ตัวเองขาย / ร้านหนังสือสีรุ้งที่ยืนหยัดเพื่อความหลากหลายทางเพศ กลายเป็นที่พึ่งของผู้คนที่สับสน / โกดังหนังสือเก่าสูงท่วมหัวของชายวัยเกษียณจอมเพี้ยน แต่แข็งแรงและสดใส / ร้านหนังสือสงครามที่นำเสนอเรื่องสงครามเพื่อหมายจะยุติมันตลอดไป / ร้านหนังสือตำราเวทมนตร์ ที่แน่นอนว่าเจ้าของร้านเป็นแม่มด / และยังมีเรือที่จอดอยู่ริมฝั่งน้ำ ทั้งลำคือร้านหนังสือ และในวันอากาศดี บนดาดฟ้ายังบรรเลงเพลงแจ๊สสดๆ ให้ฟัง ฯลฯ
"เสียงตอบรับและปฏิกิริยาของผู้คนนี่แหละเป็นกำลังใจให้ผมอยากเปิดร้านต่อไป หลายครั้งมีคนเข้ามาคุยกับผมในร้านหนังสือแล้วร้องไห้ ร้านของเราทำให้พวกเขาตระหนักว่าสังคมนี้มีบางอย่างผิดพลาด ชีวิตของพวกเขามีบางอย่างขาดหาย และพวกเขาต้องการมันกลับมา" จอห์น เจ้าของเรือร้านหนังสือกล่าว
เรื่องและภาพ: ฟาน.ปีติ
ราคาปก: 345 บาท
วรรณคดีไทยไดเจสต์ (Limited Edition)
วรรณคดีไทยไดเจสต์โฉมใหม่ ฝีมือการวาดภาพปกและภาพประกอบในเล่มโดยวิว - ชนัญญา โดยได้แรงบันดาลใจจากปกเดิมที่หลายคนคุ้นตา
- เรื่องสุดสยองในวรรณคดี
- การเกิดสุดอนาถของตัวละคร
- ๕ อันดับนางในวรรณคดีสุดปากจัด
- ๔ เหตุผลที่ทำให้หนุ่มๆ ในวรรณคดีหันมาแต่งหญิง
- ทศกัณฐ์รักนางสีดามากกว่าจริงเหรอ?
- พระลักษมณ์อ่อนจริงหรือคิดกันไปเอง?
นำวรรณคดีไทยมา 'ไดเจสต์' หรือย่อยให้เหลือแต่เรื่องราวแสบๆ แซ่บๆ ที่คุณอาจสนใจ พลางเติมชูรสให้อ่านเพลิน เพิ่มความเห็นให้อ่านสนุก โดย Youtuber สายวรรณคดีที่มีผู้ติดตามมากมาย
เขียนและวาดภาพ: ชนัญญา เตชจักรเสมา
ราคาปก: 315 บาท