กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์
LPN สานฝันคนอยากมีบ้าน พร้อมกระตุ้นตลาดอสังหาฯ คึกคัก จัดโปรเด็ดสบายกระเป๋า "ลุมพินี เติม เพิ่มให้" ฟรีเงินดาวน์-เฟอร์นิเจอร์-เครื่องปรับอากาศ-ค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 7 แสน ทั้งบ้านและคอนโดพร้อมอยู่ กับ 13 โครงการบนทำเลคุณภาพ คอนโดเริ่มที่ 1.16 ลบ. และบ้านเริ่มที่ 1.79 ลบ. ตั้งแต่วันนี้-30 มิ.ย. ที่สำนักงานขาย LPN ทุกโครงการ
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPN) กล่าวถึง การจัดโปรโมชั่น "ลุมพินี เติม เพิ่มให้" ว่าส่วนหนึ่งเป็นการสานฝันคนอยากมีบ้าน และเป็นการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มีสีสันมากขึ้น หลังจากที่ภาครัฐเองก็ให้ความสำคัญ เห็นได้จากมาตรการรัฐที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มคนที่ต้องการบ้านเพื่ออยู่อาศัยจริง
"เนื่องจากเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา บริษัทได้จัดโปรโมชั่น "ลุมพินี ชายเติม" ซึ่งผลตอบรับดีมาก กวาดรายได้กว่า 500 ล้านบาท ภายในเวลา 1 เดือน โดยส่วนใหญ่ลูกค้าเป็นกลุ่มผู้อยู่อาศัยจริง รองลงมาเป็นกลุ่มผู้ที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 ในเมือง เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง เนื่องจากชีวิตคนทำงานในเมืองส่วนใหญ่จะประสบปัญหาการจราจรที่หนาแน่น และอีกกลุ่มที่ให้ความสนใจ คือ กลุ่มนักลงทุน ด้วย 13 โครงการ LPN ที่เข้าร่วมในโปรโมชั่นนั้น ตั้งอยู่บนทำเลที่เหมาะสมต่อการเป็นเจ้าของ ทั้งราคา และทำเลที่มากด้วยคุณภาพจนยากที่จะปฏิเสธ"
สำหรับโปรโมชั่น "ลุมพินี เติม เพิ่มให้" เมื่อลูกค้าซื้อคอนโด หรือบ้าน LPN พร้อมเติมให้ทันที 3 ขั้น ยกตัวอย่าง ห้องชุดพักอาศัย ราคาขายที่ 1,840,000 บาท ขั้นแรก เติมเงินดาวน์ให้ทั้งจำนวน 10% เป็นเงิน 184,000 บาท คงเหลือเงินโอน 1,656,000 บาท ซึ่งธนาคารที่สนับสนุนจะเป็นผู้อนุมัติสินเชื่อให้ในส่วนที่เหลือ 90% ขั้นที่สอง เติมค่าตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้อีก 100,000 บาท พร้อมเครื่องปรับอากาศ ขั้นสุดท้าย เติมค่าใช้จ่ายวันโอนกรรมสิทธิ์ "ทุกรายการ" โดยในส่วนของคอนโดมิเนียมนั้น ราคาเริ่มต้นที่ 1,160,000 บาท เงินจอง 5,000 บาท กับ 7 ทำเลในเมือง ส่วนบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ ราคาเริ่มที่ 1,800,000 บาท เงินจอง 10,000 บาท กับ 6 ทำเลพร้อมอยู่ โดยมูลค่ารวมที่ LPN เติมเพิ่มให้สูงสุดถึง 700,000 บาท
"ขณะเดียวกัน LPN ก็ยังคงคำนึงถึงการพัฒนาที่พักอาศัยทั้งในรูปแบบบ้านและคอนโดมิเนียม ภายใต้แนวคิด "ความพอดี ... ที่ดีกว่า" ซึ่งนอกเหนือจากการออกแบบบ้านที่ "พอดี" กับการใช้ชีวิตแล้ว ยังสร้างสรรค์พื้นที่ให้ "พอดี" กับทุกความสุขของคนในชุมชน ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการชุมชนด้วยกลยุทธ์ "ชุมชนน่าอยู่" ตอกย้ำคุณค่างานบริการที่ไม่สิ้นสุดเพียงแค่การส่งมอบ "ที่อยู่อาศัย" แต่ได้บริหารจัดการอาคารให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้ มีสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมและสังคมที่ดีที่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ซื้ออยู่เอง และซื้อไว้ลงทุน โดยมองการบริการเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อ สำหรับแคมเปญนี้เริ่มตั้งแต่วันนี้ – สิ้นเดือน มิ.ย. นี้เท่านั้น" นายโอภาส กล่าว