กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--สำนักงาน กปร.
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เป็นหน่วยงานหลักที่ทำหน้าที่ในการประสานและดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้จัดโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) มาอย่างต่อเนื่องจวบจนปัจจุบัน โดยในปี 2562 นี้ เป็นรุ่นที่ 9 เพื่อสนองต่อพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชประสงค์สืบสาน รักษา และต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
ครั้งนี้เป็นกิจกรรม RDPB Camp Extra ครั้งที่ 2 โดยคัดเลือกเยาวชนอายุระหว่าง 13-18 ปี ที่ได้รับรางวัลด้านต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศจากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อเรียนรู้แนวพระราชดำริและผลสำเร็จจากการพัฒนาโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เหมาะสม อีกทั้งได้หล่อหลอมกระบวนการเรียนรู้จากศาสตร์พระราชาที่แท้จริง ทั้งจากผู้สนองพระราชดำริ และผู้ปฏิบัติงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้ร่วมเรียนรู้ร่วมปฏิบัติในพื้นที่จริง ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริแห่งแรก ที่ก่อตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ปี 2522 จากพื้นที่แห้งแล้งดินเลวขาดธาตุอาหาร กลับมาเป็นพื้นดินที่สมบูรณ์ปลูกพืชพรรณได้นานาชนิด ตลอดจนมีการศึกษา ค้นคว้า ทดลอง องค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ จนประสบผลสำเร็จ และนำไปถ่ายทอดให้กับเกษตรกร รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้ในพื้นที่ และนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตจนประสบผลสำเร็จ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมทั้งได้เรียนรู้จากวิทยากรและปราชญ์ชาวบ้าน ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ตรงที่จะถ่ายทอดความรู้จากแนวพระราชดำริ และการปฏิบัติจริงให้กับเยาวชนทุกคน นอกจากนี้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการฯ ยังได้ไปทัศนศึกษา ณ ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง ที่มีรูปแบบการศึกษาและเรียนรู้ป่าในเมืองอีกด้วย
เด็กหญิง ชญาดา เชาว์มานะเดช อายุ 13 ปี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จาก โรงเรียนปากช่อง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่าตนได้รับการคัดเลือกมาเข้าค่ายจากการได้รับรางวัลลูกกตัญญูกตเวทีอย่างสูงต่อแม่ จากสภาสังคมสงเคราะห์ และจากที่ได้ร่วมกิจกรรมรู้สึกดีมากที่ได้เยี่ยมชมบ้านของนายอภิรมย์ ผาวันดี ซึ่งเป็นเกษตรกรที่น้อมนำพระราชดำริมาใช้ในการประกอบอาชีพ โดยการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ได้สอนสมาชิกค่ายถึงเรื่องการปลูกต้นไม้ การจัดพื้นที่ในการทำการเกษตรที่ดีและถูกต้อง
"ความรู้ที่ได้จะนำไปปรับใช้ที่บ้าน ของและการได้ดูงานที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้ได้รับความรู้ที่แปลกใหม่เพิ่มขึ้นสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้"เด็กหญิง ชญาดา เชาว์มานะเดช กล่าว
ด้านนางสาววริสสรา สุขสมกิจ นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี บอกว่าตนได้สมัครเข้ามาร่วมกิจกรรมเพราะอยากจะเรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่พระองค์ท่านได้ทำมาตลอดชีวิต เพราะในห้องเรียนจะได้เรียนรู้แต่จากหนังสือ จากอินเตอร์เน็ตจากคำบอกเล่าของคุณครูเท่านั้น
"เมื่อได้สัมผัสได้ลงมือทำ สามารถเข้าใจและเรียนรู้ที่ได้มากกว่าการท่องจำจากตำรา ตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารู้สึกอบอุ่น อย่างโครงการป่าในกรุงที่ได้มาดูงานก็เข้าใจว่าป่าในกรุงเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ได้เรียนรู้พืชพรรณไม้ชนิดต่างๆ ที่มีในเมือง ทั้งที่มีสรรพคุณทางยาไปจนถึงการให้ความร่มเย็นและช่วยฟอกอากาศ ส่วนที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนา เขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ทำกิจกรรมในฐานเรียนรู้ เช่น การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยชีวภาพ การผสมดินเพื่อปลูกต้นไม้ ได้เรียนรู้เรื่องพืชสมุนไพร ได้พบกับเกษตรกรตัวอย่าง ที่ของบ้านนายอภิรมย์ ผาวันดี
ได้เรียนรู้การปักชำต้นหม่อน ได้รู้ว่าหม่อนนั้นกินได้ทั้งแบบสดและนำมาแปรรูป เช่น ทำไอศครีมลูกหม่อน ไปจนถึงการทำสบู่จากหม่อน ซึ่งสามารถนำความรู้นี้ไปทำเองที่บ้านได้ ก็ชื่นชม ในสิ่งที่พระองค์ท่านทำให้ประชาชนคนไทย พระองค์ท่านยอมเหนื่อยเพื่อเราเพื่อราษฎรทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น ตลอดชีวิตของพระองค์ท่านทำเพื่อพวกเรามาโดยตลอด" นางสาววริสสรา สุขสมกิจ กล่าว
ทางด้านนายอภิรมย์ ผาวันดี เกษตรกรขยายผลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่ประสบผลสำเร็จ ภายหลังจากเข้ารับการอบรมที่ศูนย์ฯ ในเรื่องการปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินน้ำและการปรับปรุงบำรุงดิน ตลอดถึงการทำปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อทำการเกษตรแบบผสมผสาน เล่าว่าเดิมที ตนทำงานในโรงงาน แต่รายได้ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย จึงหันมาทำอาชีพเกษตรเนื่องจากพ่อแม่มีที่ดินอยู่แล้ว
"การปลูกฝังให้กับเด็กๆ และเยาวชนที่จะเป็นผู้ใหญ่ในวันหน้าได้มีจิตสำนึก อย่างเช่น การรักธรรมชาติ รักสิ่งแวดล้อม อย่างที่พระองค์ท่านสอนว่าปลูกต้นไม้ในใจคนเราก็จะได้เยาวชนที่ดีมีความรักธรรมชาติในอนาคตและเข้าใจในอาชีพการเกษตร ได้รู้ว่าอาชีพเกษตรกรนั้นมีความสำคัญและมีผลอย่างไรกับชีวิตผู้คน ได้กินได้ใช้มาจากอะไร อย่างน้อยเป็นการจุดประกายต่อชีวิตว่า ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้น มีความสำคัญกับชีวิตคนเราเป็นอย่างยิ่ง" นายอภิรมย์ ผาวันดี กล่าว
สำหรับโครงการค่ายเยาวชนรู้งานสืบสานพระราชดำริ (RDPB Camp) สำนักงาน กปร. ได้จัดมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยมุ่งหวังให้กลุ่มเยาวชนได้มีโอกาสร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อพสกนิกรไทยมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนเกิดเครือข่ายกลุ่มเยาวชนและสถาบันการศึกษาในการร่วมกันสืบสานแนวพระราชดำริ และผลสำเร็จจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้อย่างกว้างขวางทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสืบสานงานพระราชดำริให้มีความยั่งยืนสืบไป