กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย
สัปดาห์นี้พิธีกร "เปอร์-สุวิกรม อัมระนันทน์" แห่งรายการ "Perspective"จะพาผู้ชมไปพูดคุยกับทายาทรุ่นที่ 4 ของตระกูลภิรมย์ภักดี ประธานเจ้าหน้าบริหาร บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัดผู้ผลิตเบียร์และเครื่องดื่มรายใหญ่ของไทยและเอเชีย"เต้-ภูริต ภิรมย์ภักดี"ผู้มากความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งรถ การร้องเพลง แม้กระทั่งการบริหารองค์กร และเป็นผู้ที่มีความคิดที่แตกต่างในด้านของการทำธุรกิจและการใช้ชีวิต
เต้ ภูริต เผยว่า "บริษัท บุญรอดฯ นี้เกิดจากการที่คุณทวด หรือเจ้าพระยาภิรมย์ภักดี ได้ไปลิ้มรสเบียร์ที่ประเทศเยอรมัน แล้วเกิดถูกใจในรสชาติ แล้วคิดว่าน่าจะทำขายในเมืองไทยได้ จึงยื่นหนังสือขออนุญาตตั้งโรงต้มกลั่นเบียร์แห่งแรกของประเทศไทย และกว่าที่ผมจะได้มาเป็นประธานเจ้าหน้าบริหารบริษัท บุญรอดฯต้องช่วยเหลือธุรกิจของครอบครัวตั้งแต่เด็ก ตอนเรียนจบได้ไปทำงานด้านเอเจนซี่โฆษณาที่บริษัทอื่น แล้วกลับมาที่บริษัท บุญรอดฯ โดยเริ่มจากฝ่ายผลิต โดยคุณพ่อปลูกฝังให้เริ่มต้นตั้งแต่แรกเริ่มคือการล้างถังเบี่ยร์อยู่ที่โรงงานผลิต ขับโฟล์คลิฟท์ด้วย เรียกได้ว่าทำทุกอย่าง วัตถุประสงค์คือทำให้เราได้เรียนรู้การทำงานทุกขั้นตอน และผมเป็นบรูว์มาสเตอร์หรือคนปรุงเบียร์คนที่ 3 ของตระกูลซึ่งผมได้ไปเรียนที่เยอรมันเป็นเวลา 8 เดือน โดยในช่วงแรกคุณทวด ต้องจ้างชาวต่างชาติในการปรุงเบียร์ ต่อมาคุณประจวบ ภิรมย์ภักดี ซึ่งเป็นคุณปู่ของผมได้ไปเรียนการต้มเบียร์ ต่อมาเป็นคุณลุงปิยะ ภิรมย์ภักดีพี่ชายของพ่อเป็นคนที่เรียนรู้การทำเบียร์เพื่อต่อยอดทางธุรกิจของครอบครัว และก่อนที่จะไปเรียนการปรุงเบียร์ที่เยอรมัน ตอนแรกผมได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำคือเป็นสมาชิกวงดนตรี กรุงเทพมาราธอนแต่มันทำให้คิดได้ว่าช่วงเวลาชีวิตของคนทุกคนมันสั้น ควรใช้ชีวิตให้คุ้ม เป็นในสิ่งที่คุณอยากเป็น และควรรู้ว่าตัวเองอยากเป็นอะไร"
เต้ ภูริต ยังเล่าอีกว่า "ผมมีมุมมองที่แตกต่างจากคนอื่น คือไม่ชอบให้คนอื่นมาบอกให้ทำนั่นทำนี่ เพราะมันคือสิ่งที่ผมต้องทำอยู่แล้ว ผมชอบคิดนอกกรอบ ซึ่งผมคิดว่าการที่คิดแบบเดิมๆ สิ่งที่เราได้มันจะเดิมๆ ซ้ำกับคนอื่น แต่ถ้าเราคิดสิ่งใหม่ๆ เราก็จะได้สิ่งที่แปลกใหม่และการใช้ชีวิตหรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าล้ม ต้องลุกให้เร็ว อย่าสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง แต่ถ้าเมื่อไรที่คิดว่าเราแพ้ เราจะไปชนะคนอื่นได้อย่างไร และปลายทางในชีวิตของผมที่คิดไว้คืออยากให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน โดยผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในองค์กรคือเรื่องของระบบ ต้องพัฒนาระบบให้แข็งแกร่ง พัฒนาคนให้แข็งแรง โดยส่วนตัวผมคิดว่าความใส่ใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่ในการทำงาน หรือแม้กระทั่งการใช้ชีวิต อย่ามัวแต่ตำหนิอย่างเดียว คำชมเชยเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คนเดินหน้าต่อไป และมันจะทำให้องค์กรเติบโตต่อไปได้ "
จากนั้นคุณเต้ได้พาเปอร์ไปชมธุรกิจส่วนตัวที่เกิดจากความชื่นชอบคือค่ายมวย RSM ที่เน้นการออกกำลังกาย และอีกหนึ่งธุรกิจคือ RYDEสตูดิโอปั่นจักรยานตามจังหวะดนตรีในร่มที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น
อย่าลืมติดตามชมมุมมองความคิดในการใช้ชีวิตของภูริต ภิรมย์ภักดีในรายการ "Perspective" ในคืนวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน2562 เวลา 21.00 น.ทางช่อง 9 MCOT HD และ Facebook Live : PerspectiveTV