กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--Communication Arts
แอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์ (Aspen Technology, Inc. (NASDAQ: AZPN) บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ (Asset optimization software) ประกาศเปิดตัวเปิดตัวซอฟต์แวร์ aspenone(R) เวอร์ชัน 11 ซึงจะเข้ามาช่วยลดช่องว่างในการปฏิบัติงานระหว่างทีมวิศวกร ผู้วางแผน ผู้วางตารางเวลาการทำงาน และผู้เชี่ยวชาญในด้านการบำรุงรักษา อีกทั้งยังจะช่วยให้องค์กรสามารถใช้ประโยชน์จากผลการวิเคราะห์ต่างๆ มาปรับปรุงการดำเนินงานและเพิ่มผลกำไร ลูกค้าจะสามารถรับรู้ถึงประสิทธิภาพและปริมาณงานที่สูงขึ้นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
ซอฟต์แวร์ aspenone(R) เวอร์ชัน 11 เป็นนวัตกรรมใหม่จากการผสมผสานของซอฟท์แวร์ aspenONE(R) ที่ใช้ในการบริหารผลปฏิบัติงานของสินทรัพย์ในองค์กร (Asset Performance Management: APM) รวมกับ aspenONE(R) Engineering ซอฟต์แวร์ด้านวิศวกรรมและ aspenONE(R) Manufacturing ซอฟต์แวร์เพื่อการผลิตและชุดซอฟต์แวร์ซัพพลายเชน ซึ่งในโอกาสนี้ แอสเพ็นเทคได้แนะนำซอฟต์แวร์ใหม่ Aspen GDOT เป็นเทคโนโลยีการเพิ่มประสิทธิภาพแบบไดนามิก ทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตขององค์กรในอุตสาหกรรมพลังงานและอุตสาหกรรมเคมีซึ่งมีสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่ซับซ้อน จึงช่วยให้ลูกค้าทั่วโลกประหยัดค่าใช้จ่ายลง
นายปีเตอร์ เรโนดส์ นักวิเคราะห์อาวุโสแห่ง ARC Advisory Group กล่าวว่า "การเพิ่มประสิทธิภาพในหน่วยงานพร้อมๆ กันหลายแห่งมักจะเป็นเรื่องยากสำหรับองค์กรที่ดำเนินธุรกิจการกลั่นและการปิโตรเคมีหลายแห่งเนื่องจากโมเดลการทำงานมีความซับซ้อนสูง ในขณะที่โซลูชันการประสานการทำงานหลายหน่วยแบบไดนามิกของ Aspen GDOT นี้กลับใช้วิธีการที่เรียบง่ายกว่าด้วยการตรวจสอบข้อมูลแบบไดนามิกและการประมาณค่าพารามิเตอร์ที่จะช่วยให้เจ้าของผู้ประกอบการสามารถลดช่องว่างในการวางแผนและการกำหนดเวลาลงได้"
ชุดซอฟต์แวร์ aspenONE(R) Asset Performance Management (APM) เวอร์ชัน 11 ประกอบด้วยการทำงานด้านการบำรุงรักษาแบบกำหนดล่วงหน้า (Prescriptive maintenance) ผสานเข้าไปในขั้นตอนการวางแผน (Plaining) และการกำหนดเวลา (Scheduling) เพื่อเตือนถึงปัญหาสภาพของอุปกรณ์ในอนาคตและสภาวะที่สินทรัพย์อาจใช้งานไม่ได้และปัญหาด้านคุณภาพของสินทรัพย์ ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้จะช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์ในกระบวนการดำเนินงานที่เป็นประเภทต่อเนื่องและเป็นชุด (Continuous and batch operations) เพื่อช่วยระบุกระบวนการต้นทางและความแปรปรวนของคุณภาพที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง เพื่อปรับปรุงการใช้สินทรัพย์ให้คุ้มค่าและดียิ่งขึ้น
สำหรับองค์กรด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างนั้น ซอฟต์แวร์รุ่นใหม่นี้ให้ประโยชน์หลายประการ อันรวมถึง การปรับปรุงประสิทธิภาพทางวิศวกรรม การเพิ่มผลกำไรและการลดความเสี่ยงของโครงการ รวมถึงศักยภาพในการออกแบบและโครงการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าในธุรกิจเคมีและพลังงาน ซอฟต์แวร์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในโรงงานในแบบแบบเรียลไทม์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจที่ไซต์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์รุ่น 11 จะช่วยอุตสาหกรรมสารเคมี โพลีเมอร์และยาในการออกแบบการปฏิบัติงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดได้เป็นอย่างดี
"แอสเพ็นเทคมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชั่นที่สามารถช่วยเพิ่มผลกำไรให้กับลูกค้าของเรามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นวัตกรรมที่อยู่ในโซลูชัน aspenONE 11 นี้จะช่วยเราสร้างคุณค่าที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มประสิทธิภาพหลายด้าน ซึ่งรวมถึงการรวมคุณสมบัติในการพยากรณ์ความผิดพลาดของอุปกรณ์ (Predictive equipment failure) เข้าไปในขึ้นตอนการวางแผน (Planning) และการกำหนดเวลาการปฏิบัติงาน (Scheduling) และการเพิ่มศักยภาพของ aspenONE(R) Engineering อีกด้วย ลูกค้าของเราล้วนรู้สึกตื่นเต้นกับความศักยภาพใหม่ๆ ของซอฟต์แวร์ที่เปิดตัวในวันนี้ ซึ่งเป็นการตอกย้ำศักยภาพของแอสเพนเทคในการสนับสนุนการปฏิรูปสู่ระบบดิจิทัลและความเป็นเลิศด้านการดำเนินงานของลูกค้าองค์กร" นายแอนโทนิโอ ปิทรี ประธานและซีอีโอแห่งแอสเพ็นเทคกล่าว
เกียวกับแอสเพ็นเทค
แอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์เป็นบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ทางอุตสาหกรรมชั้นนำระดับโลก ใช้ในการบริหารประสิทธิภาพของสินทรัพย์ในองค์กร ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ของแอสเพ็นเทคจะช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมที่การปฏิบัติงานในสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อนสูงมาก และให้ความสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพในการออกแบบการใช้สินทรัพย์ ในการปฏิบัติงาน และในการบำรุงรักษาสินทรัพย์ในองค์กรให้คุ้มค่ามากที่สุด
ทั้งนี้ แอสเพ็นเทคมีความโดดเด่นเหนือใคร ในการใช้ความชำนาญด้านการสร้างแบบจำลองของกระบวนปฏิบัติการเข้ากับเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิ่งในแหล่งข้อมูลบิ๊กดาต้าขนาดใหญ่ โดยแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่แอสเพ็นเทคที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะนี้ จะช่วยทำให้การทำงานเป็นไปอย่างอัตโนมัติและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ยั่งยืน ให้ผลตอบแทนสูงจากการลงทุนตลอดอายุการใช้งานของสินทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งจะเอื้อให้องค์กรต่างๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เงินทุนสูงสามารถเพิ่มเวลาทำงานได้สูงสุด ขยายขีดจำกัดของประสิทธิภาพให้สูงขึ้น และใช้สินทรัพย์ของตนได้เร็วขึ้น ปลอดภัยมากขึ้นและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น กรุณาเยี่ยมชมได้ที่ AspenTech.com สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม