กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--กรุงเทพมหานคร
นายณรงค์ เรืองศรี ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. กล่าวว่า ตามที่เครือข่ายพัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมคูคลอง ซึ่งเป็นตัวแทนจากเขตสายไหม วังทองหลาง บางซื่อ ห้วยขวาง ลาดพร้าว จตุจักร บางเขน และดอนเมือง ยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้สำนักงานเขตปฏิบัติตามคำสั่งในการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และคำสั่งคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 (ปว.44) กับกลุ่มผู้ไม่เข้าร่วมโครงการก่อสร้างเขื่อนริมคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ ทำให้การก่อสร้างเขื่อนริมคลอง รวมถึงการจัดระเบียบชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อล่าช้า นั้น ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ กทม. ยังไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างเขื่อนคลองลาดพร้าวได้ เนื่องจากมีบ้านรุกล้ำที่ไม่ยินยอมรื้อย้าย จำนวน 1,198 หลังคาเรือน แบ่งเป็นที่อยู่ในแนวก่อสร้างเขื่อน จำนวน 502 หลังคาเรือน และนอกแนวก่อสร้างเขื่อน จำนวน 696 หลังคาเรือน ซึ่งในการดำเนินการกับผู้รุกล้ำ สำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต ร่วมกับกรมธนารักษ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กองทัพภาคที่ 1 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจรจาสร้างความเข้าใจกับผู้รุกล้ำมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ จากนั้นได้ใช้มาตรการด้านกฎหมายควบคู่กับการเจรจาทำความเข้าใจ โดยใช้อำนาจตาม ปว.44 กับผู้รุกล้ำที่อยู่ในแนวก่อสร้างเขื่อนแล้ว จำนวน 502 ราย ส่วนผู้รุกล้ำนอกแนวก่อสร้างเขื่อน กรมธนารักษ์ ได้ใช้มาตรการด้านกฎหมาย โดยฟ้องขับไล่ผู้รุกล้ำแล้ว จำนวน 73 ราย ทั้งนี้ กทม. ได้จัดประชุมหารือกับผู้เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขต สำนักงานกฎหมายและคดี และสำนักเทศกิจ เพื่อพิจารณาดำเนินการบังคับใช้มาตรการตามกฎหมาย ปว.44 และใช้กฎหมายควบคุมอาคารกับผู้รุกล้ำที่ไม่ให้ความร่วมมืออย่างจริงจังต่อไป