กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--แม็กซิม่า คอนซัลแตนท์
จะค้าขายอย่างไรให้รวย มีเงินเหลือใช้ มีกำไรเหลือเก็บ ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย จำกัด (มหาชน) จึงได้จัด โครงการพ่อค้าแม่ค้าพากเพียร ซีซั่น 3 ขึ้น เพื่อติดอาวุธทางความคิดให้แก่เหล่าพ่อค้าแม่ค้า ที่เป็นกลุ่มฐานรากที่ชี้วัดเศรษฐกิจของประเทศ ให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างวินัยทางการเงิน โดยเปิดอบรมให้ความรู้ถึง 4 เรื่อง คือ การสร้างเครดิตที่ดี, การวางแผนทางการเงิน, การรับมือสังคมไร้เงินสด และการเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อมุ่งสู่การเป็นพ่อค้าแม่ค้า 4.0 ยุคใหม่
โครงการพ่อค้าแม่ค้าพากเพียร ซีซั่น 3 เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ตอกย้ำสโลแกน "ใครไม่เห็น เราเห็น" ภายใต้แนวคิด "ทุกคนคือ คนสำคัญ" ของธนาคารไทยเครดิตฯ ที่สนับสนุนลูกค้าสามารถเติบโตทางธุรกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าให้ดีขึ้น นายนาธัส กฤตวรานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์และการตลาด ธนาคารไทยเครดิตฯ เผยว่า "เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องของสังคมไร้เงินสด และการเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ เพราะความรู้ด้านการเงินไม่มีสอนในโรงเรียน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ด้านเหล่านี้ ดังนั้นหากพ่อค้าแม่ค้านำความรู้จากการอบรมไปปฏิบัติ จะสามารถสร้างประโยชน์ในระยะยาวและยั่งยืน ทั้งในด้านธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น เพราะเราตระหนักว่าพ่อค้าแม่ค้าเป็นฐานรากที่ชี้วัดเศรษฐกิจของประเทศ ธนาคารไทยเครดิตฯ ในฐานะเป็นสถาบันการเงิน จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความร่วมมือกับภาครัฐ กระตุ้นให้คนไทยรู้จักการใช้จ่าย อดออม อย่างถูกต้อง"
ด้าน นายวิศรุต ฝอดสูงเนิน ผู้จัดการฝ่ายการบริหารกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยเครดิตฯ วิทยากรให้ความรู้ในโครงการฯ มีคำแนะนำให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาด รวมถึงการขายออนไลน์ ว่า "พ่อค้าแม่ค้าต้องรู้จักวางแผนการเงิน และรักษาเครดิตดีของตัวเองไว้ ไม่ให้มีประวัติเสีย เพราะเครดิตบูโรคือประวัติวินัยทางการเงินของตัวเรา ที่สถาบันการเงินจะใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการอนุมัติให้สินเชื่อกู้ยืม
ไม่เพียงการรักษาเครดิตดี เรื่องของวินัยการเงินก็สำคัญ ทั้งการทำบันทึกรายรับ – รายจ่าย การออม ซึ่งสูตรง่ายๆ ของการออมคือ ให้นำเงินรายได้ทั้งหมด – เงินออม (ที่ตั้งใจจะออม) = เงินที่เหลือใช้ในแต่ละเดือน หรือหักเงิน 40% จากรายได้ทั้งหมดมาเป็นเงินออม แต่ต้องไม่น้อยกว่า 10% และควรมีการออมผ่าน ออมทรัพย์ การซื้อประกัน ซึ่งมีทั้งแบบประกันชีวิต ประกันสุขภาพ หรือการลงทุนทางการเงินอื่นๆ
นอกจากนี้โลกของเราพัฒนาสู่ยุค 4.0 ทำให้เวลานี้สังคมไทยเข้าสู่สังคมไร้เงินสด จะเห็นการให้บริการ Mobile Banking ของสถาบันการเงินต่างๆ เพื่อให้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปธนาคาร ในขณะเดียวกันร้านค้าต่างๆ จะมี QR Code ให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้แม้ไม่มีเงินสด ซึ่งข้อดีของการชำระเงินผ่าน QR Code คือสะดวก ปลอดภัยในการชำระเงิน และยังช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถใช้ข้อมูลการชำระเงินนี้ เป็นข้อมูลอ้างอิงขอสินเชื่อในอนาคตที่ต้องการเงินทุนได้ด้วย
ที่สำคัญการค้าขายเพียงช่องทางเดียวยังไม่พอสำหรับยุค 4.0 พ่อค้าแม่ค้าก็ควรต้องปรับตัว โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ โดยมีงานวิจัยพบว่าปัจจุบันคนไทยนิยมบริโภคซื้อสินค้าทางออนไลน์มากขึ้นทุกปี โดยมีสถิติคนไทยซื้อสินค้าออนไลน์มากถึง 60% เมื่อเทียบกับประเทศจีนที่มีจำนวนประชากรเยอะกว่า และประเทศไทยยังติดอันดับ 1 ของโลกที่เสพติดการใช้อินเตอร์เน็ต โดยเฉลี่ยประมาณ 10 ชั่วโมง / วัน โดยเฉพาะ คนกรุงเทพฯ มีผู้ใช้เฟซบุ๊กมากที่สุดในโลก"
โครงการพ่อค้าแม่ค้าพากเพียร ซีซั่น 3 ยังมีจัดอบรมตลอดทั้งปี 2562 หากพ่อค้าแม่ค้าตลาดใดสนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.tcrbank.com , www.facebook.com/TCRBank หรือ www.facebook.com/ThaiCreditKitforSociety หรือโทรศัพท์สอบถามที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 02-697-5454