กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--บลจ.กรุงไทย
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ 2 กองทุนให้นักลงทุนได้เลือกตามความเหมาะสม ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 250 ( KTFF250 ) อายุโครงการ 1 ปี และกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 237 ( KTFF237 ) อายุโครงการ 3 เดือน ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
โดยกองทุน KTFF 250 อายุ 12 เดือน ลงทุนในเงินฝากประจำ Bank of China , ABU Dhabi Commercial Bank , Qatar National Bank , Commercial Bank PQSC , Bank Rakyat Indonesia Perser , MTN EMIRATES PJSC และ MTN MASHREQ BANK โดยผลตอบแทนประมาณ 2.00% ต่อปี
ส่วนกองทุน KTFF237 อายุ 3 เดือน ลงทุนในเงินฝากประจำ Agricultural Bank China , Abu Dhabi Commercial Bank , Qatar National Bank , AL Khalu Commercial Bank , Commercial Bank PQSC และ Bank Rakyat Indonesia Perser ผลตอบแทนประมาณ 1.60% ต่อปี
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ อายุคงเหลือต่ำกว่า 3 ปีอัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายเพื่อลดความเสี่ยงหลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ย ส่วนตราสารอายุคงเหลือตั้งแต่ 3 ปี ขึ้นไป อัตราผลตอบแทนมีการปรับตัวลดลงตามแรงซื้อจากการลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ( Risk off ) ในช่วงที่มีการประชุม G20 ด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอเมริกา มีการปรับตัวขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุคงเหลือต่ำกว่า 1 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) ไม่ได้ส่งสัญญาณ ว่าจะลดดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps. มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 4 bps. มาอยู่ที่ 1.76% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps. มาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนตามที่กำหนด และรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ไม่สูงมากนัก
ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน