กรุงเทพฯ--4 ก.ค.--กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ระดมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ทั่วประเทศ ออกสกัดกั้นไข้เลือดออกในชุมชนหลังระบาดหนักพบผู้ป่วยแล้ว 35,482 ราย มีเสียชีวิต 54 ราย โดยเน้นย้ำมาตรการ 3 เก็บ 3 โรคป้องกันโรคไข้เลือดออก และให้ประชาชนติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาด และวิธีการป้องกันโรคได้ที่ไลน์ @อาสาปราบยุง
นพ.ณัฐวุฒิ ประเสริฐสิริพงศ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า
สถานการณ์ไข้เลือดออก ปี 2562 ข้อมูลวันที่ 25 มิถุนายน 2562 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออก รวมจำนวน 35,482ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิต จำนวน 54 ราย การกระจายตัวของผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตซึ่งจำแนก
ตามกลุ่มอายุส่วนใหญ่มีอายุ 5 – 14 ปี จำนวน 14,950 ราย เสียชีวิตแล้ว 27 ราย รองลงมากลุ่มอายุ 15 – 34 ปี ป่วยจำนวน 13,024 ราย เสียชีวิต 16 ราย ทั้งนี้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราผู้ป่วยสูงสุด รองลงมาคือ
ภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือตามลำดับ ฉะนั้นการดูแลสุขภาพ การเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุม ป้องกันโรคติดต่อในชุมชน อสม.ถือเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินงาน รวมถึงการเกิดโรคไข้เลือดออกในชุมชนด้วย กรม สบส. จึงขอความร่วมมือ อสม.ทั่วประเทศกว่า 1.04 ล้านคน ออกให้ความรู้ วิธีป้องกันยุงอย่างถูกต้อง เช่น การนอนกางมุง การใช้ยากันยุง ยาทากันยุง และเป็นแกนนำให้ประชาชนออกสำรวจแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้านเรือน ชุมชน หากเจอรีบกำจัดหรือทำลายทันที และถ้าพบคนในชุมชนป่วยหรือสงสัยเป็นโรคไข้เลือดออกให้รีบนำส่งโรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ใกล้บ้าน เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง และเฝ้าระวังป้องกันสกัดกั้น การแพร่ระบาด การเกิดโรคในชุม อีกทั้งให้ประชาชนยึดหลัก 3 เก็บ 3 โรค คือ
1.เก็บบ้านให้สะอาด
2.เก็บน้ำ ปิดภาชนะให้มิดชิด
3.เก็บขยะให้เกลี้ยง ไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ส่วน 3 โรค ได้แก่ โรคไข้เลือดออก โรคไข้ปวดข้อยุงลาย และโรคติดเชื้อไวรัสซิกา
นอกจากนี้แล้ว ประชาชนสามารถกำจัดยุงลายด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น นำตะไคร้ 1 ต้น หรือข่า 7 แว่น ทุบใส่โอ่งน้ำ เปลี่ยนน้ำทุก 10 – 15 วัน การนำชันผงหรือน้ำมันขี้โล้ ใส่จานรองขาตู้แทนน้ำ หรือนำผิวส้มตากแห้งจุดไฟไล่ยุง เป็นต้น ทั้งนี้ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์โรคไข้เลือดออก และวิธีกำจัดลูกน้ำยุงลายอย่างถูกวิธีได้ที่แอพพลิเคชั่นไลน์ @อาสาปราบยุง