กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์
จิตแพทย์ห่วงการดูซีรีส์ออนไลน์ที่กำลังฮิตทั่วโลก ระบุให้ผลสร้างความสนุก คลายเครียดได้หากดูอย่างเหมาะสม แนะไม่ควรดูแบบมาราธอนรวดเดียวจบซีซันวันเดียว ชี้จะส่งผลให้สมองเพลีย คิดอ่านช้าลง หงุดหงิดง่าย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคซึมเศร้าต้องระวังเป็นพิเศษ ไม่ควรดูคนเดียว ชี้อาจเพิ่มความรู้สึกโดดเดี่ยว โดยเฉพาะหากเป็นซีรีส์ชีวิต อาจกระตุ้นความเศร้าใจซ้ำเติมตัวเอง นอนไม่หลับ อาการกำเริบได้ แนะวิธีไม่ติดลมดูซีรีส์ ประชาชนทั่วไปควรยึดวินัย 5 ข้อสมดุลทั้งกายใจสังคม ไม่ควรดูเกิน2 ชั่วโมง
นายแพทย์กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาล(รพ.)จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า มีความห่วงใยกระแสการดูละครชุดหรือซีรีส์ (series) ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งในไทยด้วย เนื่องจากสามารถดูได้จากมือถืออย่างไม่มีข้อจำกัดทางด้านเวลาหรือสถานที่ ซึ่งในแง่ดีนั้นสามารถใช้สร้างความสนุกสนาน ผ่อนคลายความเครียดจากงานประจำได้วิธีหนึ่ง แต่การดูจะต้องมีความพอดี เหมาะสม ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้เช่นกัน แม้ว่าในไทยจะยังมีข้อมูลการศึกษาเรื่องนี้น้อยมากๆก็ตาม แต่จากงานศึกษาวิจัยในต่างประเทศ เช่นที่อังกฤษ พบว่าวัยผู้ใหญ่ประมาณ 1 ใน 3 ใช้เวลาดูทีวีเฉลี่ย 1.42 วันต่อสัปดาห์ ส่งผลเกิดปัญหาอ้วน และอดนอน มีผลต่อปัญหาการจดจำ รวมทั้งยังเสี่ยงต่อการเสพติดเช่นเดียวกับการเสพติดสารเสพติด ซึ่งเกิดมาจากกลไกภายในสมอง
ด้านแพทย์หญิงภรทิตา เลิศอมรวณิช จิตแพทย์ประจำรพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีของซีรีส์ ซึ่งจะมีเป็นตอนๆ และมีระบบต่อเนื่องแบบอัตโนมัติ อาจทำให้เกิดความเพลิดเพลินหรือติดลมคือดูแบบต่อเนื่องซึ่งเรียกว่าพฤติกรรมนี้ว่าบิงจ์ วอชชิ่ง (Binge watching) คือดูรวดเดียวจบเรื่อง หรือดูแบบมาราธอน อาจใช้เวลามากเป็นวันหรือข้ามวันข้ามคืน เนื่องจากบางเรื่องอาจยาวเป็นร้อยๆตอน ผลกระทบที่ตามมาที่เห็นชัดเจนคือการอดนอน จะมีผลต่อการทำงานของสมอง ทั้งด้านความคิดความจำ การเรียนรู้ทางด้านภาษา การตัดสินใจในลักษณะเชื่องช้าลงหรือเรียกว่าสมองตื้อ มีผลกระทบกับการทำงานและการเรียน และยังทำให้อารมณ์หงุดหงิดง่ายขึ้น หากอดนอนต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดอาการทางจิต (Psychosis) เช่น หูแว่ว ประสาทหลอน ได้เช่นกัน
"กลุ่มที่น่าเป็นห่วงก็คือผู้ป่วยซึมเศร้า ซึ่งผลสำรวจของกรมสุขภาพจิต พบคนไทยมีอัตราป่วยร้อยละ2.7 คาดว่าทั่วประเทศมีประมาณ 1.5 ล้านคน เฉพาะในพื้นที่ 4 จังหวัดในเขตสุขภาพที่ 9 คือนครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ คาดมีประมาณ 148,000 กว่าคน เข้ารักษาแล้วร้อยละ70 อีกร้อยละ30 ยังไม่ได้รับการรักษา หากจะดูซีรีส์ สามารถดูได้ โดยดูร่วมกับคนในครอบครัว หรือกับเพื่อนและดูจบเป็นตอนๆ ไม่แนะนำให้ดูคนเดียวเนื่องจากจะเพิ่มเวลาในการอยู่คนเดียว ตัดตัวเองออกสังคมผู้คนมากขึ้น โอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ลดลง หรือทำให้การออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเช่นการออกกำลังกายน้อยลง ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งในแง่ผลการรักษา อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีก โดยซีรีส์ที่ผู้ที่มีอาการซึมเศร้าไม่ควรดูคือซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตหรือเรื่องเศร้าๆ เนื่องจากจะทำให้อารมณ์ที่เศร้าอยู่เดิม เกิดหดหู่ เหงาหงอย เพิ่มขึ้น หรือนอนไม่หลับ อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ "แพทย์หญิงภรทิตา กล่าว
แพทย์หญิงภรทิตากล่าวต่อไปอีกว่า สำหรับประชาชนทั่วไป รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ มีคำแนะนำในการดูซีรีส์ 5 ประการ เพื่อให้ได้ผลต่อการดูคือมีความสุข คลายเครียด ป้องกันปัญหาติดลม โดยต้องจัด ตารางชีวิต ฝึกวินัย แบ่งเวลาให้เหมาะสม ดังนี้ 1. ควรกำหนดเวลาดูให้ชัดเจน ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนอย่างเต็มที่ คือผู้ใหญ่ ควรนอน7-8 ชั่วโมง เด็กมัธยม ควรนอน 8-9 ชั่วโมง เด็กวัยประถมควรนอน 10-11 ชั่วโมง 2. ไม่ดูซีรีส์ในห้องนอน เพื่อไม่ให้รบกวนเวลานอน 3.ในการหยุดดูซีรีส์ ควรหยุดเมื่อจบตอน หรือหยุดดูในช่วงกลางๆของตอน เนื่องจากในช่วงท้ายตอนมักจะทิ้งปมค้างไว้ ทำให้เราอยากจะดูต่อ 4. ควรจัดเวลาออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 วัน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 30 นาที การออกกำลังกายจะช่วยได้ทั้งคลายความเครียดและทำให้สุขภาพแข็งแรง และ 5. ควรจัดเวลาให้ครอบครัว เช่น ช่วยกันเตรียมอาหาร รับประทานอาหารร่วมกัน
ทั้งนี้ รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ ได้ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มคำแนะนำเพื่อป้องกันผลกระทบจากการดูซีรีส์แก่ผู้ป่วยโรคซึมเศร้าทุกรายและญาติด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลรักษา ซึ่งผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มาใช้บริการที่รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯนั้น เป็นรายที่มีอาการรุนแรงซับซ้อนทั้งสิ้น โดยมีผู้ป่วยนอกปีละประมาณ 9,000 คน มากเป็นอันดับ 2 รองจากโรคจิตเภท