กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN' ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล ส่องแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/62 ร้อนแรงต่อเนื่อง รับการจำหน่ายคอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศเติบโตแข็งแกร่ง จากกระแสซีรี่ส์อินเดีย-ฟิลิปปินส์และกระแสคอนเทนต์ไทยจากช่อง 3 ที่ได้ความนิยมจากกลุ่มผู้ชมในภูมิภาคอาเซียนเพิ่มขึ้น เชื่อหนุนภาพรวมครึ่งปีสดใส ขณะที่ครึ่งปีหลัง ยังได้รับปัจจัยบวกจากการส่งคอนเทนต์ข่าว JKN-CNBC หลังประเดิมออกอากาศช่อง GMM 25 ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีจากผู้ชม มั่นใจทั้งปีเติบโตตามแผน 20%
คุณจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/62 มั่นใจจะรักษาอัตรการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการรุกทำตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์เพื่อออกอากาศผ่านทีวีดิจิทัลและเคเบิลทีวี
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จจากการทำตลาดลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไทย ซึ่งหลังจากที่ JKN ได้เริ่มจับมือเป็นพันธมิตรกับช่อง 3 เพื่อส่งคอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยที่ผลิตโดยช่อง 3 ไปออกอากาศในภูมิภาคอาเซียนตั้งแต่ช่วงกลางปี 2561 ที่ผ่านมา ปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ชมส่งผลให้ JKN สามารถส่งออกคอนเทนต์ไทยจากช่อง 3 รวมกันมากกว่า 900 ชั่วโมง เพื่อออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ GMA ประเทศฟิลิปินส์ และผ่านแพลตฟอร์ม OTT ภายใต้ชื่อ DIMSUM เพื่ออากาศในประเทศมาเลเซีย บรูไนและสิงคโปร์
ล่าสุดบริษัทฯ ยังได้รับการต่อสัญญาจากช่อง 3 ขยายการตลาดและการจำหน่ายคอนเทนต์ครอบคลุมไปถึงกลุ่มประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ เกาหลี ญี่ปุ่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ยุโรปแคนาดา และละตินอเมริกา ที่จะเข้ามาสนับสนุนการเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังอีกด้วย
ขณะเดียวกัน การจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ตลาดในประเทศไทย ก็ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีเช่นกัน จากอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่มีความแข็งแรงมากขึ้น หลังจากที่ กสทช.เปิดทางให้ผู้ประกอบการสามารถคืนช่องได้และรับเงินเยียวยา ซึ่งคาดเม็ดเงินจำนวนหนึ่งจะถูกนำมาซื้อคอนเทนต์เพื่อสร้างความแตกต่างแก่แต่ละสถานีมากขึ้น
"เราเชื่อว่าในไตรมาส 2 ปีนี้ JKN จะยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศที่เห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมาจากความสำเร็จในการทำตลาดคอนเทนต์ซีรี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ในภูมิภาคนี้ของ JKN เพื่อผลักดันโอกาสการเติบโตจากการขายคอนเทนต์ในตลาดต่างประเทศปีนี้ ที่คาดว่าจะทำสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 30% ของรายได้รวมได้ตามแผนที่วางไว้" คุณจักรพงษ์ กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JKN กล่าวว่า ส่วนภาพรวมครึ่งปีหลังมองว่า การเริ่มต้นผลิตคอนเทนต์ภายใต้ แบรนด์ JKN-CNBC ที่ดำเนินงานภายใต้บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด จะเป็นอีกหนึ่งหัวหอกสำคัญทางธุรกิจที่จะเข้ามาช่วยสนับสนุนการเติบโตของ JKN ต่อจากนี้ หลังจากที่ได้เริ่มส่งคอนเทนต์ข่าวจำนวน 3 รายการ ได้แก่ รายการ Squawk Box รายการ Power Lunch และรายการ Street Sign ไปออกอากาศทางช่อง GMM25 ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ชมที่ให้ความสนใจคอนเทนต์ข่าวเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังเตรียมส่งคอนเทนต์จาก JKN-CNBC เพิ่มเติมอีก 5 รายการ เพื่อออกอากาศผ่านช่องทีวีดิจิทัลเพิ่มเติม ได้แก่ ช่อง 5 ช่องทรูฟอร์ยู
ช่องอัมรินทร์ทีวี เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า ภายในปีนี้ JKN-CNBC จะทำสัดส่วนรายได้ประมาณ 3-5% ของเป้ารายได้รวมในปีนี้ ที่ตั้งเป้าว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%