กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--ไอเดีย เวิร์คส์ คอมมิวนิเคชั่นส์
ขอแสดงความยินดีแก่เหล่าน้องๆ วัยคอซอง ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทั้ง 5 คนที่สามารถสอบได้คะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต สูงสุด 5 อันดับแรก และสอบเข้าชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้ตามที่ตั้งใจ จากการเข้าร่วมแคมป์ติว "ซีพี-เมจิ เทนไซ รุ่น 5" จัดโดย "บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด" มุ่งเสริมความรู้ให้แก่พ่อแม่ส่งลูกหลานสู่โรงเรียนที่ใช่ ในเส้นทางที่ใฝ่ฝัน
"ติวสด เสริมแรง พร้อมฟิต พิชิต ม.1" สโลแกนของโครงการ "ซีพี-เมจิ เทนไซ รุ่น 5" ที่น้อง ๆ ป. 6 ได้วัดความรู้ ผ่าน ONLINE PRE-TEST รู้จุดแข็ง จุดอ่อนก่อนร่วมแคมป์ติวสด 5 วิชา กับ 5 ติวเตอร์ดัง อาทิ ครูลิลลี่ วิชาภาษาไทย, อ.ชัย วิชาสังคมศึกษา, ครูซุปเค วิชาคณิตศาสตร์, ครูพี่กิ๊ฟท์ วิชาภาษาอังกฤษ และครูพี่บิ๊ก วิชาวิทยาศาสตร์ แถมปีนี้พิเศษสุดๆ เป็นปีแรกที่ขยายโอกาส พื้นที่การจัดกิจกรรมให้น้องๆ ที่ต่างจังหวัดด้วย โดยจัดกิจกรรมติวสดใน 2 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯและขอนแก่น ไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ในโอกาสนี้ คุณชาลินี พูนลาภมงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด ได้มอบทุนการศึกษารวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท แก่น้อง ๆ ที่ทำคะแนนสอบโอเน็ตสูงสุด 5 อันดับแรก กล่าวว่า ด้วยค่านิยมของซีพี-เมจิ คือการทำให้สังคมที่อยู่รอบข้างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยซีพี-เมจิ มีสโลแกน ชีวิตดีมีได้ทุกวัน ดังนั้น เราต้องการทำให้คนที่เกี่ยวข้องกับซีพี-เมจิ ให้สามารถมีชีวิตที่ดีได้ในทุกวัน ซึ่งชีวิตที่ดีของแต่ละกลุ่มคนย่อมแตกต่างกัน ทางซีพี-เมจิ มีการส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่ต้นน้ำ นั่นคือ ชีวิตเกษตรกรเลี้ยงโคนม ได้ให้สัตวแพทย์เข้าไปช่วยส่งเสริมกระบวนการเลี้ยง พัฒนาคุณภาพของน้ำนม แม่วัว ทำให้คุณภาพชีวิตของเกษตรกรเหล่านั้นดีขึ้น ส่วนในกลุ่มเด็กและเยาวชน ถือเป็นกลุ่มสำคัญที่สำคัญ เป็นกำลังคนรุ่นใหม่ อนาคตของชาติ จึงได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริม พัฒนาการแก่เด็กและเยาวชน จึงได้เกิดโครงการ "ซีพี-เมจิ เทนไซ รุ่น 5" หนึ่งในหลายโครงการที่ทางซีพี-เมจิ จัดขึ้น ทุกปี ทางซีพี-เมจิ ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เข้าร่วมมากที่สุดประมาณ 1000 กว่าคน โดยมีปีนี้มีความพิเศษได้ขยายโครงการให้แก่เด็กมากขึ้น โดยเริ่มออนทัวร์ไปต่างจังหวัดครั้งแรก กระแสตอบรับจากทั้งนักเรียน และผู้ปกครองให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้นทุกปี ซึ่งโครงการนี้น่าจะเป็นโครงการเดียว ที่เปิดโอกาสให้เด็กประถมศึกษาได้เรียนติว เสริมความรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนกิจกรรมการมอบทุนการศึกษาก็เพื่อเป็นกำลังใจ รางวัลให้แก่น้องๆ ที่ตั้งใจเรียน เพราะการที่เขาทำคะแนนสอบได้ดี เป็นการสะท้อนว่าพวกเขาได้พยายาม ตั้งใจ และการมาเรียนเสริมช่วยให้น้องได้คะแนนดีขึ้น รวมถึงเป็นตัวอย่างให้แก่น้องๆ คนอื่น ว่าทุกคนทำได้ และอยากบอกว่าทุกอย่างอยู่ที่ตัวน้องเองถ้าทุกคนมีความตั้งใจ ส่วน ซีพี- เมจิ เป็นเพียงส่วนเสริม สนับสนุน พาน้องไปสู่เป้าหมาย
"สำหรับปีหน้านั้น ขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อมและจะทำให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ โดยจะรักษามาตรฐานคุณภาพการสอน เนื้อหาที่สอนต้องตรง ตอบโจทย์ เพราะการติว 2 วัน เวลาจำกัด ครูติวเตอร์จะต้องรวบรวมเนื้อหา เคล็ดลับต่างๆ เพื่อทำให้เด็กเข้าใจและคงคุณภาพเนื้อหาการสอนที่เข้มข้น ที่สำคัญต้องเป็นการเรียนรู้อย่างสนุก ซึ่งคุณครูทุกท่านไม่ได้เก่งเฉพาะวิชาการเท่านั้น แต่การถ่ายทอด เทคนิคการสอนยังทำให้น้องๆ เข้าใจได้ง่าย และทุกปีนอกจากการติว 2 วันแล้ว ทางซีพี-เมจิ ยังมีแนวข้อสอบที่น้องๆ สามารถ เข้าไปในเว็บไซต์ของซีพี-เมจิ น้องๆสามารถเข้าไปหัดทำข้อสอบ เตรียมความพร้อมได้ตลอดเวลา เป็นเครื่องมือที่น้อง ๆ สามารถเข้ามาฝึกฝนทำโจทย์ แบบทดสอบโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ส่วนรายละเอียดของโครงการนี้ จะมีการสื่อสารผ่านแฟนเพจ เฟสบุ๊ค CP-Meiji Tensai อยากให้พ่อแม่และเด็กๆติดตาม และพ่อแม่หลายคนที่เป็นแฟนเพจอยู่แล้ว ช่วยบอกต่อเรื่องราวดีๆ ของโครงการ"คุณชาลินี กล่าว
นอกจากนี้ ทาง ศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (P-PAC) ได้มอบบัตรกำนัลเข้ารับบริการการวิเคราะห์สแกนลายผิววิทยา และโค้ชกับโค้ชมืออาชีพอีกด้วย โดยคุณอมรรัตน์ ประทุมมา ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์ศักยภาพปัญญธารา (P-PAC) กล่าวว่า บัตรกำนัลที่มอบให้นั้น จะช่วยให้พ่อแม่ได้เห็นถึงศักยภาพ จุดแข็ง จุดอ่อนของลูก เพราะเด็กมีการเปลี่ยนแปลง มีความแตกต่างกัน ซึ่งพ่อแม่ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับลูกด้วย ผลวิเคราะห์จะเป็นการบอกตัวตนของเด็กแต่ละคน ถ้ามีการพัฒนาตัวเองเรื่อยๆ ก็จะทำให้มีคุณภาพชีวิตดี รู้ว่าควรเสริมควรเพิ่มอะไร โดยในการเพิ่มเสริมศักยภาพให้แก่เด็กนั้น อยากแนะนำให้เพิ่มจุดแข็งเป็นหลัก เพราะจุดแข็งของเด็กจะทำให้เขาแตกต่าง มีจุดเด่น มีศักยภาพของตนเองที่ไม่เหมือนใคร อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาศักยภาพของเด็กนั้น ต้องเป็นไปตามความชอบความต้องการของเด็กด้วย และสภาพแวดล้อมก็มีส่วนสำคัญ
ในปีนี้ มีน้อง ๆ ที่ได้รับทุนการศึกษาและได้เข้ารับการวิเคราะห์สแกนลายผิววิทยา และโค้ชกับโค้ชมืออาชีพ จากการทำคะแนนโอเน็ตสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ด.ช.นราวิชญ์ ตันติพิทักษ์โชติ ชั้นม.1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย หนุ่มน้อยที่ทำคะแนนสอบโอเน็ตได้อันดับ 1 คะแนนรวม 383.00 คะแนน ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 50,000 บาท, ด.ญ.ภัทราภรณ์ สุนทรวรรณ ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ทำคะแนนโอเน็ตอันดับ 2 คะแนนรวม 372.75 คะแนน ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 40,000 บาท, ด.ญ.พิชชาภา หัวใจแก้ว นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนราชินี ทำคะแนนรวม 372.25 คะแนน ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 30,000 บาท, ด.ช.ปีมงคล จงสำราญ นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย คะแนนรวม 366.75 คะแนน ได้รับทุนการศึกษา มูลค่า 20,000 บาท และ ด.ญ.มนัญชยา อัศวพันธา โรงเรียนสาธิตปทุม คะแนนรวม 366.25 คะแนน รับทุนการศึกษา มูลค่า 10,000 บาท
ด.ช.นราวิชญ์ เล่าว่ารู้จักโครงการดังกล่าวทางเพจของซีพี-เมจิ และคุณแม่ก็มาบอกว่ามีโครงการดังกล่าว สนใจจะเข้าร่วมหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนตัวเป็นคนชอบเรียน และกำลังจะสอบเข้าม.1 จึงสมัครเข้าร่วมโครงการ เมื่อได้เข้าร่วมก็ไม่ผิดหวัง โครงการจัดได้ดี มีประโยชน์ต่อเด็กอย่างมาก ครูติวเตอร์ที่มาสอนทุกคนก็สอนสนุก ได้ความรู้ เทคนิคมากมาย ที่สำคัญทำให้ได้เข้าเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยอย่างที่ตั้งใจไว้ และได้คะแนนโอเน็ตสูง การติวใน "ซีพี-เมจิ เทนไซ รุ่น 5" หนังสือที่ได้ แบบทดสอบ ล้วนมาเติมเต็มในส่วนที่ไม่รู้หรือในห้องเรียนอาจจะขาดไป ความรู้ที่ได้จากโครงการนำไปใช้ได้อย่างมาก วันนี้รู้สึกดีใจมากที่ได้คะแนนสูงสุด และหลังจากนี้จะตั้งใจเรียน อยากชวนเพื่อนๆ ทุกคนถ้ามีโอกาสให้มาเรียนติวในโครงการที่ได้ทั้งความสนุก ความรู้ และได้เจอเพื่อนๆ ใหม่ด้วย
คุณแม่อรวีร์ ตันติพิทักษ์โชติ ของด.ช.นราวิชญ์ เล่าว่าแม่จะพยายามหาโครงการดีๆ ให้ลูกได้เข้าร่วม ซึ่งแคมป์ติวซีพี-เมจิ เทนไซ เป็นโครงการที่ดีช่วยเสริมการเรียนรู้ในวิชาต่างๆ ให้แก่เขา ช่วยให้น้องพัฒนาตนเอง ทำคะแนนได้มากขึ้น ตอนน้องไปติว แม่ได้มีโอกาสไปติวด้วย ซึ่งเนื้อหาของติวเตอร์สอนดี มีทั้งความสนุก ความรู้ และสามารถนำมาใช้กับน้องได้ เพราะการที่แม่เข้าติวด้วย เมื่อน้องสงสัย ถาม แม่ก็สามารถตอบน้องๆ ได้ คุณแม่ให้ลูกเลือกสิ่งที่อยากจะทำ และเมื่อเขาเลือกเอง เขาจะพยายามอย่างเต็มที่ เขาเลือกที่จะสอบเข้าโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ก็ต้องหยุดเล่นเกม ซึ่งเขาก็รักษาสัญญา อ่านหนังสือและเรียนติวจนสอบติด โครงการนี้มีประโยชน์อย่างมาก ในการช่วยเด็ก เคล็ดลับที่ติวเตอร์ชี้แนะ จะทำให้เด็กรอบคอบมากขึ้นในการทำข้อสอบ โอกาสพลาดน้อยลง อยากชวนพ่อแม่ทุกคนติดตามจากเฟสบุ๊ค อย่าง ซีพี-เมจิ เทนไซ และเข้าร่วมโครงการดีๆ อย่างนี้
ขณะที่ครอบครัวสุนทรวรรณ คุณแม่ศุภสิริ และคุณพ่อเมศวร มารับมอบทุนแทนด.ญ.ภัทราภรณ์ เนื่องจากน้องเรียนอยู่ต่างประเทศ เล่าว่าเพื่อนผู้ปกครองได้แนะนำโครงการนี้ให้แม่รู้จักว่ามีการเรียนติวฟรี และมาถามน้อง เขาก็สนใจ เพราะมองว่าโครงการดังกล่าว เป็นโครงการที่ดีมีประโยชน์ มีบุคลากรติวเตอร์ที่มีความสามารถ มีชื่อเสียง อยากให้ลูกได้มีเทคนิค มีเคล็ดลับในการเรียน การฝึกทำโจทย์มากขึ้น ซึ่งเมื่อน้องไปเรียนเขาก็มีความสุข และสนุกในการรู้ จากการไปร่วมกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลน้องอย่างดี มีคู่มือ มีอุปกรณ์การเรียน และมีอาหารให้เด็กๆ ฟรี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการเปิดโอกาสให้แก่เด็กทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกัน
"ตอนนี้มีโครงการมากมาย ซึ่งพ่อแม่สามารถเลือกดูได้จากโซเซียลมีเดีย หรือถามจากเพื่อนผู้ปกครองด้วยกัน อย่าง ซีพี-เมจิ เทนไซ เป็นโครงการที่จัดมาอย่างยาวนาน มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งอยากให้มีจัดต่อไปเรื่อยๆ และอยากให้มีขยายช่วงชั้นอื่นๆ เช่น ช่วงม.3 ขึ้นม.4 ช่วงนี้ก็สำคัญเช่นเดียวกัน รวมถึงอยากฝากพ่อแม่ การเลี้ยงลูกต้องคุยกับลูกว่าสิ่งที่เขาเรียน เขาชอบหรือไม่ เขาสนใจหรือไม่ ยอมรับความคิดเห็นของลูกก่อน แล้วพ่อแม่ค่อยเติมความคิดให้แก่ลูก" คุณพ่อเมศวร เล่า
ทั้งนี้ สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง และน้อง ๆ ที่สนใจ สามารถติดตามแคมป์ติวซีพี-เมจิ เทนไซ รุ่นที่ 6 และสามารถทบทวนความรู้จากบทเรียนต่างๆ ได้ทางwww.cpmeiji.com/meijitensai หรือ www.facebook.com/cpmeijitensai