กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--โฟร์ฮันเดรท
มหาวิทยาลัยมหิดล ชูแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี ก้าวสู่ความเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของไทยอย่างยั่งยืน ครั้งแรกกับการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมหาวิทยาลัยมหิดล "Mahidol R-I-SE NOW" Research & Innovation Special Exhibition โดย สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม ร่วมกับ กองบริหารงานวิจัยและกองกิจการนักศึกษา เป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีวันพระราชทานนาม 131 ปีมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยมหิดล หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ภายในงานมีการแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่โดดเด่นตอบสนองยุทธศาสตร์ของประเทศในการขับเคลื่อน Thailand 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม กว่า 90 บูธ มีการพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนความรู้กับเหล่ากูรูตัวจริงด้านงานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียน นักศึกษา รวมถึงบุคคลทั่วไป พร้อมเปิดโอกาสให้อาจารย์และนักวิจัยสร้างความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนในการต่อยอดผลงานวิจัยต่าง ๆ สู่สังคมไทย ซึ่งการจัดงานจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 24 สิงหาคม 2562 ณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนโยธี (ตรงข้ามโรงพยาบาลรามาธิบดี) ผู้เข้าร่วมงาน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตลอดงานมีกิจกรรมและของรางวัลมากมายอีกด้วย
ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง มไหสวริยะ รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นสถาบันการศึกษาที่ผลิตบัณฑิตและผลงานวิจัยที่มีคุณภาพในหลากหลายสาขาวิชา มุ่งผลิตผลงานต่างๆ ที่มีศักยภาพสูงตามนโยบายการพัฒนาประเทศ เราจึงมีแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี คือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561-2580 เพื่อให้ทิศทางและนโยบายการพัฒนามหาวิทยาลัยมีความชัดเจน สอดคล้อง และตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาประเทศ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลกเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เราต้องเร่งปรับตัวหาทางรับมือกับสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น โดยมีการศึกษาถึงสถานการณ์และบริบท ทั้งจากภายในประเทศและของโลกในทุกมิติ โดยเฉพาะในมิติที่จะส่งผลต่อการพัฒนามหาวิทยาลัยในระยะสั้นและระยะยาว สถานการณ์ความท้าทายต่าง ๆ เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด, การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ, การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ, การเปลี่ยนแปลงและความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นต้น นอกจากนี้ มหาวิทยาลัย ยังต้องเข้าสู่การแข่งขันในเวทีโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการจัดอันดับเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของประเทศไทย จากสถาบันจัดอันดับมหาวิทยาลัยของโลกหลายสถาบัน
สำหรับแผนยุทธศาสตร์สำคัญประการแรก ที่มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความสำคัญ คือ Global Research & Innovation เป็นยุทธศาสตร์ที่สนับสนุนให้มีการผลิตงานวิจัยและงานนวัตกรรมคุณภาพสูง มีผลกระทบในระดับสากล โดยการสร้างกลุ่มวิจัยหลายรุ่นและแบบสหสาขา (Multi-generation Researcher & Multidisciplinary) โดยใช้วิธีการปรับการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล และจัดตั้งกองทุนสนับสนุน มีการสร้างความร่วมมือกับโครงการวิจัยนานาชาติแบบสหสถาบัน (Global Connectivity) และสร้างระบบสนับสนุนการวิจัยที่ครบวงจรจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ ที่เรียกว่าResearch Value Chain ด้วยการวิจัยแบบ demand – driven ที่ได้ข้อมูล หรือ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ/ภาคเอกชน/ผู้ใช้ผลงานวิจัยจากชุมชนที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ทั้งในระดับ global & social impact สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อสังคมและเชิงพาณิชย์ ซึ่งตัวอย่างผลงานด้านนวัตกรรม จะนำมาแสดงในงาน Mahidol University's Research & Innovation Special Exhibition หรือMahidol R-I-SE NOW
หน้าที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม ออกไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ การที่จะผลิตบุคลากรให้มีทักษะและความเชี่ยวชาญตามวิชาชีพ ซึ่งมหาวิทยาลัยมหิดลได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ ยุทธศาสตร์ด้านAcademic & Entrepreneurial Education มีเป้าประสงค์ในการสร้างบัณฑิตให้เป็น Global Citizen และ Global Talents คือการรู้ลึกถึงศาสตร์ในวิชาชีพของตน รู้กว้างในการมีทักษะการใช้ชีวิต ปรับตัวได้ พร้อม รับการเปลี่ยนแปลง สามารถแก้ปัญหาได้ นี่คือคุณสมบัติ Global professional ที่จะพัฒนาไปสู่การเป็น Entrepreneurship มีการบูรณาการหลักสูตรโดยร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในและต่างประเทศในทุกกลุ่มสาขาวิชา ตัวอย่างการส่งเสริมการศึกษาเพื่อการเป็นผู้ประกอบการ เช่น โครงการจัดตั้งชมรม Mahidol Startup Club ซึ่งเกิดขึ้นจากการรวมตัวของนักศึกษาจากหลายคณะ ของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความสนใจในการพัฒนานวัตกรรมและการทำ ธุรกิจ startup ซึ่งมหาวิทยาลัยมหิดลให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ ให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะและประสบการณ์ให้แก่นักศึกษา
ศาสตราจารย์ นพ.บรรจง กล่าวต่อไปว่า สำหรับบทบาทของมหาวิทยาลัยมหิดลในการช่วยขับเคลื่อนนโยบาย Thailand 4.0 นั้น มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความสำคัญในการส่งเสริมด้านงานวิจัยมาโดยตลอด มุ่งเน้นให้งานวิจัยสามารถนำไปสู่การสร้างนวัตกรรมที่นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อชุมชน สังคม และมีส่วนช่วยพัฒนาความก้าวหน้าของประเทศ มหาวิทยาลัยมหิดลมีอาจารย์และนักวิจัย ที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา และสามารถเป็นผู้นำในการพัฒนางานวิจัยในระดับนานาชาติ รวมถึงมีเป้าหมายในการสนับสนุนนักศึกษาให้มีความพร้อมทั้งในด้านวิชาชีพ เทคโนโลยี และการสร้างสรรค์นวัตกรรมหรือการเป็นผู้ประกอบการในอนาคต นวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นกลไกสำคัญในการนำประเทศไทยให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางไปสู่ความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ มีการต่อยอดองค์ความรู้ เพื่อนำผลงานวิจัยไปแก้ปัญหาและสร้างสรรค์นวัตกรรมชิ้นใหม่ๆ โครงการความร่วมมือ ที่มหาวิทยาลัยมหิดลดำเนินการออกไปหลายโครงการ จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพราะนวัตกรรม คือ ตัวกำหนดทิศทางอนาคตของประเทศไทย
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร. นายแพทย์ ภัทรชัย กีรติสิน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) กล่าวว่า ในปีนี้เป็นโอกาสอันดีที่มหาวิทยาลัยมหิดลครบรอบ 50 ปีแห่งวันพระราชทานนาม และ131ปีมหาวิทยาลัยมหิดล นับตั้งแต่ครั้งเริ่มก่อตั้งโรงศิริราชพยาบาล และมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ จึงเห็นสมควรให้มีการจัดงานนิทรรศการแสดงความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยทั้งด้านศาสตร์และศิลป์ เพื่อแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะสร้างงานวิจัยและนวัตกรรม ที่ช่วยสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย รวมถึงการเปิดรับฟังความคิด ข้อเสนอแนะ จากภาคประชาชน ภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงอย่างมีบูรณาการกับมหาวิทยาลัย ในการสร้างความร่วมมือในงานวิจัยพัฒนา ที่จะนำไปสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจที่มั่นคงอย่างยั่งยืนของประเทศ จึงได้กำหนดจัดงาน Mahidol University's Research & Innovation Special Exhibition (Mahidol R-I-SE NOW) ขึ้นในวันศุกร์ที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนโยธี
ในงาน Mahidol R-I-SE NOW จะมีการจัดแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรม ที่เป็นไฮไลต์จากทุกคณะและสถาบันของมหาวิทยาลัยมหิดล โดยแบ่งเป็นโซนที่จะสร้างความสนใจแก่ผู้เข้าชมได้หลากหลาย อาทิ โซนด้านการแพทย์และสุขภาพ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ รวมไปถึงการแสดงนวัตกรรมที่ทันสมัย และพร้อมสู่การถ่ายทอดเทคโนโลยี มากกว่า 90 บูธ เพื่อให้ภาคเอกชน และภาคอุตสาหกรรม นำไปใช้ประโยชน์แก่สังคมต่อไป อีกทั้งยังมีการจัดแสดงของบริษัท startup ต่างๆ ที่พร้อมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน รวมถึงผลงานวิจัย และนวัตกรรมของอาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยมหิดลมีอีกหลากหลายประเภท อาทิ ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ชุดตรวจทางห้องปฏิบัติการ หุ่นยนต์ เทคโนโลยี และสมองกลเพื่อช่วยพัฒนาด้านการแพทย์และความเป็นอยู่ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ อาหารเสริมสุขภาพและอาหารเพื่อผู้ป่วย รวมไปถึงอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสังคมและชุมชน นอกจากนี้ยังมีผลงานด้านวัฒนธรรมและดนตรีที่ช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอีกด้วย ซึ่งผลงานต่างๆ นี้ นอกจากจะช่วยให้เกิดความก้าวหน้า ในสังคมไทย ที่จะทัดเทียมนานาชาติแล้ว ยังมีส่วนช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศ และสนับสนุนนโยบาย Thailand 4.0 ได้อย่างตรงเป้าหมาย
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร.ภัทรชัย กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังจัดให้มีการเสวนาในหลายหัวข้อที่น่าสนใจ อาทิ "การพลิกฟื้นประเทศไทยด้วยความท้าทายในด้านการวิจัยและนวัตกรรม" เพื่อให้เข้าใจถึงนโยบายจากภาครัฐ โดยท่านสมาชิกวุฒิสภา และท่านปลัดท่านแรกของกระทรวงใหม่ล่าสุดของประเทศไทย คือกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม มีการเสวนาในหัวข้อทางวิชาการที่จะสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน เช่น ทิศทางในการวิจัยเกี่ยวกับกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้สังคมเข้าใจได้อย่างถูกต้อง และการคิดวิจัยแบบนอกกรอบ ในกรณีศึกษาวัคซีนไข้มาลาเรีย โดยผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดอย่างมากในวงการโรคมาลาเรีย อีกทั้งยังมีการเสวนาแนวคิดจากภาคเอกชน เพื่อสร้างความร่วมมือกันอย่างเป็นบูรณาการอีกด้วย
และเหนือสิ่งอื่นใด อยากจะเชิญ นักเรียน นักศึกษา ทั่วประเทศ ร่วมงาน โดยเราจะเปิดเวทีให้มี การประกวด idea ที่สร้างสรรค์ ในหัวข้อSmart Health เพื่อให้สามารถนำเสนอการใช้เทคโนโลยี หรือแนวคิดที่หลากหลาย ในการสร้างนวัตกรรมส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของคนไทย ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างนวัตกรรมมาช่วยกันให้ข้อเสนอแนะ โดย idea จากเวทีนี้ อาจจะได้รับการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์หรือระบบทางการแพทย์ ที่สามารถสร้างชีวิตที่ดีให้กับคนไทยหรือระดับโลกได้อีกด้วย
การจัดงาน Mahidol R-I-SE NOW เหมาะสำหรับทุกคน ทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ ที่จะมารวม ตัวกัน และร่วมพลังกันกันมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งจะมีทั้งสาระ และความสนุกสนาน ที่น่าติดตามตลอด 2 วันเต็ม ผู้สนใจเข้าร่วมชมงานแสดงผลงานวิจัย และนวัตกรรมที่โดดเด่นของมหิดล ในงาน Mahidol University's Research & Innovation Special Exhibition (Mahidol R-I-SE NOW) จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 23 ถึงวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม 2562 คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนโยธี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02 849 6050-3 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/MAHIDOLRISENOW