กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก
อีสท์ วอเตอร์ เผยปริมาณยอดขายปี 2562 ในครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2561 ผลจากความต้องการน้ำของนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านทริส เรตติ้ง ยังคงอันดับเครดิตองค์กรของอีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ที่ระดับ A+ สะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทสู่ผู้นำการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจรของประเทศ
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2562 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการรวมทั้งสิ้น 1,164.83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 119.44 ล้านบาท หรือ 11.43% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2561 เนื่องจากปริมาณน้ำดิบจำหน่ายเพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิ จำนวน 341.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.04 ล้านบาท หรือ 12.90%
สำหรับปริมาณยอดส่งจ่ายน้ำดิบในเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2562 มีปริมาณอยู่ที่ 132.77 ล้านลูกบาศก์เมตร จากเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2561 ที่ 102.97 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 29.8 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยสามารถแยกกลุ่มลูกค้าเป็นนิคมอุตสาหกรรม 49% กลุ่มอุปโภคบริโภค 24% กลุ่มสวนอุตสาหกรรม 12% กลุ่มกิจการประปาของกลุ่มบริษัท 10% กลุ่มโรงงานทั่วไป 5% ซึ่งทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะมีปริมาณส่งจ่ายน้ำดิบในปี 2562 อยู่ที่ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร จากปี 2561 อยู่ที่ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ยอดปริมาณการจำหน่ายน้ำดิบที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกนั้นมาจากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากลูกค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค
นอกจากนี้ บริษัทจัดอันดับเครดิตองค์กรชื่อดังชั้นนำอย่าง "ทริสเรทติ้ง" จัดอันดับให้บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ (EASTW) ให้คงอันดับเครดิตอยู่ที่ A+ แนวโน้มคงที่ สะท้อนสถานะที่แข็งแกร่งของธุรกิจที่เป็นผู้บริหารจัดการน้ำที่มีโครงข่ายท่อส่งน้ำดิบครอบคลุมพื้นที่ในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกที่สมบูรณ์เพียงรายเดียว ความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก มีอัตรากำไรที่ดีและมีกระแสเงินสดสม่ำเสมอแต่ยังคงมีข้อจำกัดเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศและพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำฉบับใหม่
ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการน้ำดิบแต่เพียงรายเดียวในเขตชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ความต้องการใช้น้ำในพื้นที่ภาคตะวันนอกที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี คาดว่าความต้องการใช้น้ำดิบ น้ำอุตสาหกรรม และการจัดการน้ำแบบครบวงจรจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เช่น โครงการซื้อขายน้ำอุตสาหกรรม กับบริษัท กัลฟ์ พีดี จำกัด และ บริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด โครงการที่กำลังดำเนินการและรับรู้รายได้ เช่น โครงการน้ำ Recycle กับ บริษัท ราชบุรีกล๊าส อินดัสทรี จำกัด นอกจากนี้ยังมีการหาโอกาสในธุรกิจอย่างต่อเนื่องในการให้บริการแก่พื้นที่นอกเขตอีอีซีด้วย
ทริสเรตติ้งคาดการณ์ว่ารายได้ของอีสท์ วอเตอร์ จะเติบโตอยูที่ 5% ต่อปีในช่วงปี 2562-2564 โดยพิจารณาจากความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ซึ่งบริษัทมีแผนการลงทุนเพิ่มเติมในอีก 3 ปีข้างหน้า ทั้งการสร้างท่อส่งน้ำใหม่ พัฒนาสถานีสูบน้ำและเสริมประสิทธิภาพเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาการบริหารจัดการน้ำ เพื่อก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำในการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจรของประเทศต่อไป