กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--IR Network
มุมมองสำหรับบางคนคิดว่า การที่คนเราได้ทำในสิ่งที่รักและชอบย่อมเป็นความสุขที่สุดแล้ว แต่ในความเป็นจริง นี่คือสิ่งที่สำคัญที่ช่วยให้แต่ละวันของเรามีความสุขไปกับการทำงานได้มากขึ้น อันจะนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต เฉกเช่นกับ "ดร.วิกร ภูวพัชร์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ดำเนินธุรกิจเครื่องกรองน้ำและระบบน้ำแบบครบวงจร (All Solutions of Water) แถวหน้าของประเทศ ที่มีแผนจะนำธุรกิจเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในปีนี้
*** ชีวิตผูกพันกับ "น้ำ"
ตั้งแต่เด็กๆ ผมอยู่กับน้ำและผูกพันกับน้ำมาตลอด จุดเริ่มต้นเกิดจากอายุประมาณ 6-7 เดือน ครอบครัวพาไปวัดหลวงพ่อโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่เกิดอุบัติเหตุรถตกน้ำ ผมจมน้ำแต่ก็รอดมาได้ คุณพ่อคุณแม่จึงยกให้เป็นลูกหลวงพ่อโสธร เพราะเห็นว่าท่านก็ลอยน้ำมาเช่นกัน ชีวิตผมจึงชอบน้ำและทำธุรกิจเกี่ยวกับทางด้านน้ำมาตลอด ตั้งแต่เด็กจนถึงวันนี้ผมแขวนพระเพียง 1 องค์ คือ หลวงพ่อโสธร ซึ่งเป็นความเชื่อมาตั้งแต่เด็ก
***เส้นทางธุรกิจ
หลังจากเรียนจบ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นลูกจ้างบริษัทก็ทำเกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment System) ในงานระบบอุตสาหกรรม ทำอยู่ประมาณ 2 ปีครึ่ง จึงเปลี่ยนมาทำเป็น Project Engineer ขาย หม้อไอน้ำ(Boiler) สตรีมเทอร์บาย หลังจากนั้นในปี 2540 ได้ตั้งบริษัทของตัวเอง คือ บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ภายใต้การบริหารงานของ ฟังก์ชั่น กรุ๊ป เพื่อประกอบธุรกิจหลัก เกี่ยวกับการนำเข้าสินค้าและจัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและอุปกรณ์อะไหล่สำหรับเครื่องกรองน้ำดื่ม และ ปี 2543 เริ่มทำธุรกิจมารีน คือ การนำเข้าเรือสำราญ ภายใต้บริษัท ฟังก์ชั่นมารีน จากนั้นในปี 2544 เริ่มเข้าสู่ธุรกิจรีสอร์ท คือ "เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท" เป็นที่พักสไตล์มัลดีฟ (แพในน้ำ) รายแรกของไทย ที่ได้รับฉายาว่า มัลดีฟเมืองไทย ต่อมาปี 2555 ได้เปิดตัว "เฮฟเว่น แคว" และปี 2558 เปิดตัว "เฮฟเว่น เบย์" ซึ่งได้รับกระแสตอบรับดีมาก
***ให้คุณค่ากับทุกสิ่งที่ทำ
เมื่อผมรู้ตัวว่ารักและชอบในสิ่งๆ นั้นจริงๆ ผมก็ลงมือทำอย่างจริงจัง เรียนรู้และพัฒนา พร้อมกับไม่ปิดกั้นโอกาสที่มีเข้ามาและจะทำทุกๆ โอกาสที่มีเข้ามาให้ดีที่สุด ผมว่าถ้าเราทำธุรกิจโดยไม่มีความรักและความชอบเป็นพื้นฐาน เราคงทำมันออกมาได้ไม่ดีและไม่นาน ทำให้คำว่า "ประสบความสำเร็จ" ยิ่งถอยห่างออกไปเรื่อยๆ
ทุกอย่างไม่จำเป็นจะต้องดีที่สุด เพียงแค่มองว่าเราชอบสิ่งไหน สิ่งนั้นก็คือ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา หากคุณมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่รัก นั่นหมายความว่าคุณประสบความสำเร็จเกินครึ่งแล้ว ความสุขนี้แหละ ที่จะเป็นกุญแจไขความสำเร็จในชีวิต คำตอบอยู่ที่ตัวคุณเอง ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเปิดรับมันหรือไม่ แต่ละวันที่ได้ใช้ชีวิตอยู่ กับน้ำ มันคือความสุขที่แท้จริง
***ความยั่งยืนของธุรกิจ คือ ความสำเร็จในชีวิต
กว่า 22 ปี การทำธุรกิจของฟังก์ชั่นกรุ๊ป คือ การนำเสนอสินค้าใหม่ๆ และพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างสม่ำเสมอ ผนวกเข้ากับบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการวางระบบ การออกแบบวางระบบเกี่ยวกับน้ำ (ทั้งน้ำอุปโภคและบริโภค) ทำให้ธุรกิจโตเร็ว และจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง หากถามว่าทุกวันนี้ผมประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วหรือยัง? ผมว่าก็ระดับหนึ่ง แต่ผมต้องการความยั่งยืนให้กับธุรกิจ นั่นคือ การนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งตามแผนคาดว่าภายในปีนี้
***แบ่งเวลาเพื่อครอบครัว
ทุกครั้งที่ทำงานผมทุ่มเทมาก และในส่วนของครอบครัวก็ไม่ต่างกัน ผมมักจะหากิจกรรมทำร่วมกันเสมอเปลี่ยนกิจกรรมไปตามวาระและโอกาส ผมมีลูก 2 คน ชาย-หญิง ผมไม่ขีดเส้นให้ลูกเดิน ปล่อยให้เขาเลือกชีวิตที่ชอบ สำหรับบางคนถูกบังคับให้ต้องสืบทอดธุรกิจจากครอบครัว แต่สุดท้ายแล้วผมมองว่ามันสู้ความตั้งใจของคนมาใหม่ไม่ได้ รวมถึงความเก่ง อารมณ์ ความชอบ ความมุ่งมั่นมันต่างกัน ในมุมของผมถ้าลูกทำไม่ได้ หรือบางทีอยากทำแต่ความสามารถไม่ถึง ผมก็ไม่ให้ทำ เพราะท้ายที่สุดธุรกิจจะล้มเหลว ผมต้องการคนที่มีความเป็นมืออาชีพ ใครที่ความสามารถไม่ถึงก็จะไม่ได้บริหารต่อไป
***ของสะสม
ผมสะสมนาฬิกามีหลายยี่ห้อ เช่น Patek และ Rolex ที่ซื้อเพราะชอบ ของเค้าดี ขายง่าย มูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง ราคาขึ้นทุกปี นอกจากนี้ยังมี วาเชอรอง คอนสแตนติน (Vacheron Constantin) , Rolex ,Audemars Piguet รวมๆ แล้วตอนนี้น่าจะประมาณ 12-14 เรือน นำมาใส่ทุกเรือนสลับกันไปแล้วแต่โอกาสความเหมาะสม
ผมทำงานทุกวัน..เข้าข่ายที่เรียกว่าทำงานไปด้วยพักผ่อนไปด้วย มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำงาน เพราะเราทำในสิ่งที่เรารัก ทุกวันนี้ไม่ได้มีความทุกข์อะไร เราต้องถามว่า..งานที่เราทำมันมีความสุขหรือเปล่า ถ้าเราสุขในสิ่งที่เราสำเร็จ มันก็คือความสำเร็จ สำหรับผมเรื่องเงินทองเป็นเรื่องรอง "การที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ทำในสิ่งที่ชอบและถนัด ถือว่าตอบโจทย์วิถีชีวิตของผมแล้ว แต่ผมจะไม่หยุดค้นคว้าที่จะหาความรู้เพิ่มเติม หรือคิดทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้ "ฟังก์ชั่น กรุ๊ป" เติบโตอย่างมีศักยภาพ ตราบใดที่ผมยังมีกำลัง"