กรุงเทพฯ--10 ก.ค.--หอการค้าไทย
ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยมีสัญญาณที่อ่อนแรง สะท้อนจากการส่งออกและการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัว ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยก็ขยายตัวในระดับต่ำ มีเพียงการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัว จากแรงหนุนมาตรการพยุงเศรษฐกิจของภาครัฐ
มองต่อไปในช่วงที่เหลือของปี 2562 แนวโน้มเศรษฐกิจไทยยังอยู่ท่ามกลางความท้าทายและขาดปัจจัยหนุน โดยแม้ว่าการส่งออกอาจจะกลับมาฟื้นตัวได้บ้างจากปัจจัยฐาน และความเป็นไปได้ที่น้อยลงที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีล็อตสุดท้ายจากจีน หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายได้กลับมาสู่เส้นทางการเจรจากันอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากความซบเซาของการค้าโลก รวมทั้งปัจจัยค่าเงินบาทที่แข็งค่าเร็ว และอาจยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าอีกหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกไทย ทำให้แนวโน้มการส่งออกทั้งปี 2562 อาจมีความเป็นไปได้ที่จะไม่ขยายตัว
ณ วันที่ 8 ก.ค. 62 เงินบาทอยู่ที่ 30.80 บาท/ดอลลาร์ฯ แข็งค่า 5.7% นับจากต้นปี
ที่ประชุม กกร. จึงปรับกรอบประมาณการอัตราการเติบโตของการส่งออกในปี 2562 ลงมาที่ -1.0% ถึง 1.0% (จากเดิม 3.0-5.0%) และแม้ว่ารัฐบาลใหม่จะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ กกร. ก็มองว่าอาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลจากการส่งออกที่ลดลงท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอลงและทิศทางเงินบาทที่แข็งค่า ดังนั้น กกร. จึงปรับกรอบประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ลงมาที่ 2.9-3.3% (จากเดิม 3.7-4.0%) สำหรับอัตราเงินเฟ้อปี 2562 ยังคงไว้ที่กรอบเดิมคือ 0.8-1.2%
กกร. ได้ทำข้อเสนอเกี่ยวกับการกำหนดนโยบายการยกระดับคุณภาพแรงงานไทย ประกอบด้วย (1)การปรับขึ้นค่าจ้างควรขึ้นตามความเห็นชอบของคณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดไตรภาคี (2)การเพิ่มประสิทธิภาพแรงงานและการพัฒนาฝีมือแรงงาน (3)การเพิ่มกำลังคนทดแทน