กรุงเทพฯ--11 ก.ค.--กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เนื่องด้วยในวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2562 และวันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2562 เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา สำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีประกาศ ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่3 ) ข้อ 2 ห้ามผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ยกเว้นการขายเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ ซึ่งในปีที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบ ควบคุม กำกับ ดูแลตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พุทธศักราช 2551 ดำเนินการสุ่มตรวจสถานประกอบการพบว่ายังคงมีการฝ่าฝืนการกระทำความผิดในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังพบว่าสาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุนั้น มาจากการเมาแล้วขับ ตลอดจนการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งล้วนมีสาเหตุเนื่องมาจากการเมาสุรา พลตำรวจเอก เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงได้สั่งการไปยังทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเพื่อสร้างการรับรู้ไปยังประชาชน และผู้ประกอบการร้านค้า โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการร้านค้าทุกประเภท อาทิ ร้านอาหาร และสถานบริการ
ให้งดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ทั้งขายส่งและขายปลีก ทั่วราชอาณาจักร ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา คือ หลังเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 จนถึงเวลา 24.00 น. ของคืนวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ยกเว้นเฉพาะร้านค้าปลอดอากรภายในอาคารท่าอากาศยานนานาชาติ) หากผู้ประกอบการรายใดฝ่าฝืน มีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พุทธศักราช 2551 มาตรา 39 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
(หนึ่งหมื่นบาทถ้วน) หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. กำชับให้ทุกหน่วยปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อกวดขัน จับกุม ผู้กระทำความผิดที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด โดยเน้นการตรวจตราร้านข้าวต้มโต้รุ่ง ร้านคาราโอเกะ ร้านอาหารริมทาง รวมทั้งร้านในบริเวณสถานีขนส่ง สถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิง วัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา ซึ่งในส่วนการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตั้ง รวมถึงจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์บริเวณถนนสายหลักที่เป็นที่ตั้งของสถานบริการ ให้ดำเนินการ ตั้งจุดตรวจในเวลาที่เหมาะสม ถ้าหากมีการตรวจพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ให้ดำเนินการสอบสวนขยายผลเพื่อจับกุมผู้จำหน่ายสุราที่ฝ่าฝืนกฎหมายและประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีอย่างจริงจัง ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนช่วยกันสอดส่องดูแล
หากพบเห็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พุทธศักราช 2551
ของสถานประกอบการรายใด หรือพบเห็นอาชญากรรมต่าง ๆ สามารถแจ้งเบาะแสและข้อมูลข่าวสารมายังโทรศัพท์ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง