กรุงเทพฯ--15 ก.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
อาชีพ "วิศวกร" ยังคงเป็นสายงานที่มีความต้องการสูงโดยเฉพาะประเทศไทย โดยคิดเป็น 13.42% ของความต้องการแรงงานทั้งประเทศ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้ภาคอุตสาหกรรมเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในแต่ละปีมีคนรุ่นใหม่มุ่งสู่ถนนสายนี้จำนวนมาก โดยที่ผ่านมาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TSE) ได้ผลิต "ว่าที่วิศวกร" เพื่อให้ทันต่อความต้องการบุคลากรด้านวิศวกรรมที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี TSE มีบัณฑิตที่จบการศึกษาไปแล้วทั้งสิ้น 5,517 คน ให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ จึงอยากใช้โอกาสนี้แบ่งปันเรื่องราวสุดเรียลของบัณฑิตป้ายแดง กับ 6มุมมองที่สะท้อนตัวตนของ TSE บัณฑิตต้อง "เป็นมากกว่าวิศวกร" ซึ่งได้เก็บเกี่ยวตลอดเส้นทางของการเป็นนักศึกษา และน่าจะมีประโยชน์กับคนรุ่นใหม่ที่อยากก้าวสู่เส้นทางสาย "วิศวกร"
เป็นวิศวกรรุ่นใหม่ต้องใส่ใจสังคม
เริ่มต้นกันที่มุมมองของ นางสาวณัฐชยา สุทธิกิตติบัตร (มิลค์) บัณฑิตจากภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า เล่าว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปี ไม่ได้มีแต่ความรู้ด้านวิชาการ แต่ TSE ยังสอนให้มีความคิดที่ดีในหลายเรื่อง เช่น การไม่เห็นแก่ตัวหรือมองแต่ประโยชน์ของตัวเองเน้นการแบ่งปันความรู้ที่มีให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดจากความรัก ความเอาใจใส่จากเพื่อนในภาควิชา เพื่อนในคณะอาจารย์ทุกท่าน และเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่ทำให้รู้สึกว่า TSE อยู่กันเป็นครอบครัว และในฐานะบัณฑิตของ TSE มีความสุขมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวนี้ ซึ่งถ้าไม่มีครอบครัวแห่งนี้ ก็คงไม่มีตัวตนของเราในวันนี้เช่นกัน
ปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลง
อีกมุมมองของบัณฑิตจบใหม่ นายพศิน อุดมศักดิ์ (พูม) บัณฑิตจากโครงการวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตภาคภาษาอังกฤษ(วิศวกรรมเครื่องกล) ที่สะท้อนความรู้สึกจากหัวใจ ว่าได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ท่ามกลางสังคมที่ดี ซึ่งต้องขอบคุณ TSE ที่ให้โอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ และทำให้ความกังวลของเด็ก ม.ปลายคนหนึ่ง ที่เคยคิดว่าการเรียนในมหาวิทยาลัยต้องกดดันและต้องเผชิญกับความเครียดรอบตัว แต่เมื่อได้เข้ามาเรียนแล้ว กลับรู้สึกต่างออกไป เพราะการต้อนรับที่ดีจากบุคลากรหลายท่าน รุ่นพี่ และเพื่อนร่วมรุ่น ที่มีส่วนสำคัญให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และอยากจะส่งต่อความรู้สึกนี้ ไปยังคนรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมของ TSE อีกด้วย
เส้นทางสู่การเป็นผู้ใหญ่ เริ่มต้นจากการให้เกียรติผู้อื่น
การปฎิบัติต่อกันด้วยความเท่าเทียม เสมอภาคของทุกคนมีให้กับ ตั้งแต่อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ก่อให้เกิดมิตรภาพที่ยากจะลืมเลือน โดยนางสาวสโรชา โปร่งจิต (จูน) บัณฑิตจากภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ บอกว่า ตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตในฐานะนักศึกษาของ TSE ที่แห่งนี้ไม่เพียงให้แต่ความรู้และทักษะต่างๆ ในวิชาชีพและการดำเนินชีวิต แต่ยังทำให้ได้รู้จักเพื่อนที่ดี อาจารย์ที่น่ารัก และประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาจากที่ไหนได้ ทุกคนปฏิบัติต่อกันเสมือนคนในครอบครัว ปฏิบัติต่อกันด้วยความเท่าเทียมเสมอภาค จึงรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้เติบโตจาก TSE ซึ่งมั่นใจว่าจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตการทำงานและชีวิตประจำวันได้อย่างแน่นอน
มีวินัยในการทำงานและคิดอย่างเป็นระบบ
นอกจากหลักสูตรการสอนที่มีคุณภาพ ซึ่งเปรียบเสมือนเข็มทิศนำทางให้กับนักศึกษา TSE ยังให้ความสำคัญกับการแบ่งปันประสบการณ์ การดำเนินชิวิต การทำงาน และการแก้ปัญหาต่างๆ โดยนายกษิดิศ วจีไกรลาศ (ก้อง) บัณฑิตจากโครงการวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (วิศวกรรมโยธา) อยากขอบคุณ TSE ที่ได้แบ่งปันสิ่งเหล่านี้เพื่อให้พร้อมสำหรับชีวิตการทำงาน เพราะสอนให้มีความรับผิดชอบ การบริหารเวลา และมีความคิดที่เป็นระบบ จึงไม่รู้สึกเสียดายที่เลือกเรียนที่ TSE และรู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของ TSE ในโอกาสครบรอบ 30 ปีอีกด้วย
อดทนอดกลั้นเพื่อให้ผ่านอุปสรรคขวากหนามไปได้
เรียกว่าผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย กับชีวิตบนเส้นทางที่มีทั้งส่วนที่ยากและส่วนที่ง่ายของนางสาวโยษตา ฉันทานุมัติ (ฟ้า) บัณฑิตจากหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (วิศวกรรมเคมี) ที่เล่าว่าในช่วง 2 ปี ของการเรียนที่ TSE เธอได้พบกับประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนและกิจกรรมต่างๆ ที่แตกต่างไปจากตอนเป็นนักเรียน ม.ปลาย ยากง่ายปะปนกันไป แต่โชคดีที่มีรุ่นพี่และเพื่อนๆ คอยช่วยเหลือจนผ่านปัญหาต่างๆ มาได้ด้วยดี แม้กระทั่งในช่วงชั้นปีที่ 3 และที่ต้องไปอยู่ต่างประเทศ
ทุกคนก็ยังคงช่วยเหลือกันตลอด จนเกิดเป็นประสบการณ์อันน่าจดจำ ทุกคนใน TSE จึงเปรียบเสมือนครอบครัวที่คอยสนับสนุนซึ่งและกัน
รอบรู้วิชาการอย่างเดียวไม่ได้ ต้องเป็นผู้นำและมีคุณธรรมด้วย
บัณฑิตจากโครงการวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบันอีกราย ที่ได้แง่คิดมากมายไปจาก TSE นั่นคือนายรัชชานนท์ ดีศรีศักดิ์ (จ๊อบ) ภาควิศวกรรมอุตสาหการ บอกว่า ถึงแม้จะมีโอกาสใช้ชีวิตใน TSE เพียง 2 ปี เนื่องจากศึกษาอยู่ในโครงการวิศวกรรมศาสตรบัณฑิตสองสถาบัน (TEP) ซึ่งต้องเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศในช่วง 2 ปีหลัง แต่ก็มีความรู้สึกที่ดีกับสถาบันแห่งนี้ เพราะที่นี่ไม่เพียงแต่สอนเรื่องความรู้ด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังสอนทักษะต่างๆ ผ่านการทำกิจกรรม อาทิ ความเป็นผู้นำ จริยธรรมที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตการเรียนและการทำงานได้จริง จึงอยากขอบคุณ TSE ที่มอบโอกาสให้ และกลายเป็นบัณฑิตในวันนี้
ทั้ง 6 มุมมองของบัณฑิตป้ายแดง สะท้อนตัวตนของ TSE ที่สั่งสมชื่อเสียงและคุณภาพจนกลายเป็นที่ยอมรับจากในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งได้ปลูกฝังดีเอ็นเอความเป็น TSE ไปยังบัณฑิตกว่า 5 พันชีวิต ที่พร้อมนำความรู้ความสามารด้านวิศวกรรม ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมต่างๆของประเทศ และยังคงทำหน้าที่ส่งต่อความเป็นเลิศทางวิชาการ และจิตวิญญาณของ TSE ไปยังคนรุ่นใหม่ ที่มีความฝันและอยากก้าวสู่เส้นทางสายนี้ต่อไป และในปีนี้ TSE เตรียมจัดงาน "TSE Beyond Engineering" ในโอกาสครบรอบ 30 ปี ภายใต้แนวคิด "30 ปีแห่งความภูมิใจ TSE เป็นมากกว่าวิศวกร" เพื่อนำเสนอสุดยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมรางวัลระดับโลก รวมถึงการผลักดันโรดแมปวิศวกรรมแห่งอนาคตรองรับการพัฒนาของประเทศ ในวันที่ 19 สิงหาคม 2562
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวกิจกรรมของ TSE ได้ที่ www.engr.tu.ac.th และ Facebook fanpage ของ TSE
ที่ www.facebook.com/ENGR.THAMMASAT