กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--เซ็นทรัลพัฒนา
เร็วๆ นี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารศูนย์การค้าชั้นนำของไทย เปิดพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์รวมกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่จากคอร์ส ธุรกิจ CPNlead รุ่น 3 เปิด "YOUNIQUE Market by CPNlead" โดยเพื่อนผู้ประกอบการกว่า 40 แบรนด์ได้ร่วมกันออกไอเดีย Collaboration จนได้โปรดักท์และเซอร์วิสใหม่ๆ ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นความโดดเด่นของตลาดป๊อปอัพนี้ที่เป็นส่วนหนึ่งของเวิร์คช้อปในคอร์ส CPNlead ที่ช่วยผู้เรียนต่อยอดธุรกิจและสร้างความสำเร็จมาแล้วในทุกรุ่น โดยเร็วๆ นี้เตรียมต่อยอดนำตลาดป๊อปอัพนี้ไปเปิดที่เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์ วันที่ 25-29 กรกฎาคมนี้ อีกด้วย
คุณปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานคอมเมอร์เชียลของซีพีเอ็น กล่าวว่า "YOUNIQUE Market สื่อถึงความ 'Unique' ไม่เหมือนใครและไม่เคยจัดที่ไหนมาก่อน เป็นความร่วมมือร่วมใจกันของกลุ่มเพื่อนนักธุรกิจจากหลักสูตร CPNlead ซึ่งเราจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 แล้ว โดยเราไม่เพียงจัดคอร์สอบรมและเปิดพื้นที่ให้ทดลองจริง แต่ซีพีเอ็นยังเข้าไปมีส่วนร่วม Co-Create กับนักธุรกิจ รุ่นใหม่เหล่านี้ด้วยทั้งในส่วนการคิดคอนเซ็ปต์ตลาด การแชร์อินไซต์กลุ่มเป้าหมายที่มาเดินที่เซ็นทรัลเวิลด์ เน้นมองให้ลึกถึงไลฟ์สไตล์ของลูกค้า และการสร้างประสบการณ์ที่ Seamless เกิดเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ใหม่ๆ รวมถึงโปรดักท์ใหม่ที่พร้อมนำไปต่อยอดและขายได้จริงทันที โดยจากประสบการณ์ครั้งนี้ทุกแบรนด์กำลังจะได้เปิดตลาดป๊อปอัพอีกครั้งที่เซ็นทรัลเฟตสิวัล อีสต์วิลล์ ระหว่างวันที่ 25-29 กรกฎาคมนี้"
ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด ของซีพีเอ็น กล่าวว่า "การเปิดพื้นที่ให้เอสเอ็มอีได้มาเปิดตลาดป๊อปอัพในศูนย์การค้าที่เป็น Strategic Location ของซีพีเอ็น อย่างเซ็นทรัลเวิลด์ ถือเป็นจุดต่างที่สำคัญของคอร์ส CPNlead ซึ่งการจัดเวิร์คช้อปเปิดตลาดร่วมกันนี้เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้เอสเอ็มอีได้มีพื้นที่ทดลองไอเดีย สร้างแบรนด์และโปรดักท์ใหม่ๆ ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร เป็นการกระตุ้นให้พวกเขาคิดนอกกรอบหรือ Breakthrough Potential ของตัวเองออกมา ผู้บริโภคเองก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย ได้เลือกช้อปสินค้าและบริการใหม่ๆ เพราะฉะนั้นถ้าได้มาเดินเที่ยว YOUNIQUE Market คุณจะไม่ได้เจอสินค้าที่ซ้ำกันเลยสักครั้ง และคุณจะแปลกใจว่าของบางอย่าง เช่น เสื้อผ้า แว่นตา กระเป๋า กาแฟ จะมา Collab กันได้อย่างไร นั่นเป็นเพราะเราตั้งโจทย์ที่ยากเพื่อให้แบรนด์ที่มีความแตกต่างกันมาทำ Collaboration ร่วมกัน ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและขยายฐานลูกค้า สร้าง New Experience ให้กับผู้บริโภค โดยความได้เปรียบของการได้มาร่วมคอร์ส CPNlead คือคุณจะไม่ต้องเสียเวลามองหาพาร์ทเนอร์ อีกทั้งเรายังเปิดโอกาสให้คุณได้ลองผิดลองถูก และได้รับฟีดแบ็คตรงทั้งจากลูกค้าและโค้ชของคอร์สที่สามารถช่วยคุณปรับจุดด้อยพัฒนาจุดเด่นได้ทันทีอีกด้วย"
ผศ.ปิติพีร์ รวมเมฆ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ม.ธรรมศาสตร์ ผู้ร่วมพัฒนาคอร์ส CPNlead กล่าวว่า "ปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ หันมาทำ Marketing Collaboration กันเยอะขึ้น โดยเราจะเริ่มเห็นกระแสจาก Global Brand รวมถึงแบรนด์ใหญ่ๆ ในไทย สำหรับเอสเอ็มอีหรือคนที่เริ่มต้นทำธุรกิจ ส่วนใหญ่จะมี mindset ว่าต้องสร้างแบรนด์ตัวเองให้แข็งก่อน ยังไม่กล้าไปจับมือกับพาร์ทเนอร์อื่น แต่ที่คอร์ส CPNlead เราเปิดโอกาสให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ได้กล้าลงมือทำจริง ขายจริง และนำไปสู่ความสำเร็จจริงๆ โดยมี Successful Platform อย่างการเปิดตลาดป๊อปอัพ YOUNIQUE Market ซึ่งในครั้งแรกเพื่อนนักธุรกิจในรุ่นเดียวกันจะต้องออกไอเดียทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม โดยเราก็จะกระตุ้นให้พวกเขาทำ Collaboration กันในแบบข้าม Category ซึ่งเป็นความท้าทายและโอกาสที่หาไม่ได้ง่ายๆ หลายแบรนด์ประสบความสำเร็จได้ทันที และบางแบรนด์ก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงนำไปพัฒนาธุรกิจต่อไป เช่น
- สามารถทำการตลาดแบบ Omnichannel ดึงฐานลูกค้าจากออนไลน์ให้มามี Experience จริง ช่วยปิดการขายได้เร็วขึ้น หรือคอนเน็คลูกค้าจากออฟไลน์มาสู่ออนไลน์ผ่านการทำ Pre-Order
- ประสบความสำเร็จในการทำ Collaboration ของแบรนด์แฟชั่น ที่ถึงแม้จะเป็นแบรนด์น้องใหม่ในตลาดเริ่มต้นจากช่องทางออนไลน์ ก็ใช้จุดแข็งของการทำ Communication บนออนไลน์ ช่วยสร้าง awareness ให้แบรนด์ตัวเองและแบรนด์ใหม่ที่ร่วมทำกับพาร์ทเนอร์ไปด้วย
- หลายแบรนด์สามารถพัฒนาโปรดักท์ใหม่ๆ ได้ แต่ยังต้องคิดเรื่อง Story Telling และการสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจ
- บางแบรนด์สามารถที่จะปรับ Business Model และทำ Visual Merchandise ที่น่าดึงดูดได้ ก็สามารถพลิกกลับมาสร้างยอดขายได้เลย เป็นต้น"
คุณปัณณพร พิชิตวัฒนา จากแบรนด์ Picht และคุณคุณพิมสิริ นาคสวัสดิ์ จากแบรนด์ The Parrot ตัวแทนจากกลุ่ม Wonder Vibes บอกเล่าถึงความสำเร็จในการ Collaboration ระหว่างเพื่อนเจ้าของธุรกิจแบรนด์แฟชั่นคือ Picht x LookbookLookbook x The Parrot ออกมาเป็น Wonder Vibes Resort Collection "การได้เข้ามาทำป๊อปอัพสโตร์ในหลักสูตร CPNlead เป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับแบรนด์ที่กำลังเติบโต ได้ awareness จากลูกค้าจริงๆ ที่ผ่านไปมา ส่วนการได้มา Collab ทำคอลเล็กชั่นพิเศษด้วยกันครั้งนี้ ก็เป็นความท้าทายว่าถึงแม้เราจะเป็นธุรกิจแฟชั่นเหมือนกัน แต่จะเอาซิกเนเจอร์ของแต่ละ แบรนด์มามิกซ์แอนด์แมชหาจุดตรงกลางร่วมกันยังไง ซึ่งทาง Picht มีจุดเด่นคือผ้ายืดที่ทอมาอย่างดี ขนาดสีขาวก็ยังไม่โปร่งแสง เราเลยนำผ้ามารวมกับการอัดพลีทของ The Parrot เพื่อที่จะทำให้ผ้ายืดที่มีความยืดหยุ่นอยู่แล้ว flexible มากขึ้นในการทำไซส์ต่างๆ แล้วก็นำความสดใสร่าเริงของ LookbookLookbook เข้ามาใส่ในดีไซน์ การทำงานร่วมกันครั้งนี้ทำให้เห็นว่า Innovation เป็นเรื่องสำคัญ เพราะลูกค้าก็จะสนใจอะไรใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์เขาได้ และเราเองในฐานะแบรนด์ก็ได้แรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ด้วย"
คุณจารุวรรณ แซ่เตี๋ย จากแบรนด์ Zleep Sleep และคุณแพรพรรณ ธรรมวัฒนะ จากแบรนด์ AH Nam ตัวแทนจากกลุ่มที่สามารถสร้างแบรนด์น้องใหม่ขึ้นมาได้อย่าง 'Seanival' กล่าวว่า "ใครที่คิดว่าจับธุรกิจหลายอย่างแล้วจะเก่งรีเทลอาจจะต้องคิดใหม่เมื่อมาเรียนคอร์ส CPNlead คอร์สนี้เหมือนเปิดโลกธุรกิจให้เราใหม่เลย อย่างเช่นการได้มาทำเวิร์คช้อปเปิดป๊อปอัพสโตร์กับเพื่อนๆ ซึ่งก็มีความหลากหลายมาก เป็นการผลักดันให้เราก้าวข้ามขีดจำกัด คิดผลิตอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำ ไม่เคยขายมาก่อน กลุ่มเราก็จะประกอบไปด้วยแบรนด์อาหารคือ AH Nam ร้านฮอทพอทรูปแบบใหม่, ก๋วยเตี๋ยวกั้งบ้านเพ, เย็นตาโฟเครื่องทรง โดย อ.มัลลิการ์, All Coco ซึ่งก็จะมีความเชื่อมโยงกับซีฟู้ดได้ ส่วนโปรดักท์ของแบรนด์อย่างชุดเครื่องนอน Zleep Sleep และผ้าพันคอ Kiss me doll ก็จะมีความหวานและกลิ่นอายของ Carnival เราเลยได้ไอเดียทำคอนเซ็ปต์สโตร์ภายใต้แบรนด์ Seanival ขึ้นมา ซึ่งตรงนี้เราก็จะได้เรียนรู้การทำ Collaboration ระหว่างแบรนด์ที่อาจจะไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันเลย รวมไปถึงการทำ Branding ที่เราไม่ได้เน้นการทำโปรดักท์ใหม่อย่างเดียว แต่สินค้านั้นๆ ต้องมีเรื่องราวที่ผู้บริโภคเข้าใจและรู้สึกเชื่อมโยงได้ด้วย"
คุณวาสินี เอกภาพบัณฑิต จากแบรนด์ Greenmade Cafe และคุณทวีสิทธิ์ กาญจนวงศ์ไพศาล จากแบรนด์ KLANDTH ตัวแทนจากกลุ่มคอนเซ็ปต์สโตร์ที่ได้ไอเดียแก้ Pain Point ของคนรุ่นใหม่อย่าง 'Office Syndrome' กล่าวว่า "กลุ่มเราเป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์เปิดร้านป๊อปอัพน้อย แบรนด์สมาชิกในกลุ่มก็แทบจะ Merge เข้ากันไม่ได้อย่าง Greenmade Cafe ที่ทำเมนูสุขภาพ หรือ KLANDTH ที่เป็นร้านแฟชั่นมัลติแบรนด์ การทำงานร่วมกันครั้งนี้ก็เหมือนได้ Learning by Doing ซึ่งจะแตกต่างจากตอนที่เราทำแบรนด์ของเราคนเดียวที่เราอาจจะลุยทำไปตาม passion คิดไปตามกรอบของธุรกิจตัวเอง แต่พอมาเรียนคอร์สนี้ มีอาจารย์ที่ Coaching อย่างใกล้ชิด ช่วยให้เราเห็นภาพชัด เราเริ่มคิดที่จะใส่ Creativity เข้าไปในธุรกิจให้มีเรื่องราวและน่าดึงดูด อย่างกลุ่มเราก็จะมีแบรนด์แฟชั่นอย่าง Hamburger Studio กับ KLANDTH ที่เอา Boyy London มา และแบรนด์แว่นตา Glassaholic ซึ่งทั้งหมดนี้เราก็พยายามครีเอทให้เข้ากับ Greenmade Cafe ที่มีคอนเซ็ปต์ Fresh From Farm รวมถึงไอศกรีม Soft Serve จาก Owlvee soft ที่มารวมตัวกัน เลยออกมาเป็นคอนเซ็ปต์สโตร์ที่ตอบโจทย์คนทำงานรุ่นใหม่แนว Eco Smart ได้อย่างลงตัว"