กรุงเทพฯ--18 ก.ค.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
"ทำอย่างไรให้ลูกชอบกินผัก?" หนึ่งในคำถามหนักใจของหลายๆ ครอบครัวเมื่อต้องคิดค้นหาวิธีการต่างๆ เพื่อดึงดูดให้ลูกหันมากินผักมากขึ้น โครงการเนสท์เล่เพื่อเด็กสุขภาพดี (Nestle for Healthier Kids) โดย บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด และพันธมิตรภาครัฐและเอกชนจัดกิจกรรม "เป็นฮีโร่ให้ลูกเปลี่ยน" พร้อมผนึกกำลังกับครอบครัวคนดังทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ นำโดย ครอบครัวผู้พันเบิร์ด วันชนะ สวัสดี นักแสดงชื่อดัง คุณอุ้ม นพรรต นพศักดิ์ เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ My name is napat, คุณแม่น้ำหวาน เจ้าของเฟซบุ๊กเพจ Happy Mommy Diary, คุณแม่แพร เจ้าของเฟซบุ๊กเพจสารพันปัญหาการเลี้ยงลูก คุณแม่มีมี่ เจ้าของเฟซบุ๊กเพจรักลูกนะ และครอบครัวครูนกเล็กและน้องถูกใจ ยูทูปเบอร์ขวัญใจเด็ก ร่วมปฏิบัติภารกิจ "กินผักยกบ้าน" ตลอดระยะเวลากว่าสองเดือน ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดี มีครอบครัวทางบ้านเข้าร่วมภารกิจในแต่ละสัปดาห์ รวมกว่า 200 ครั้ง
ผู้พันเบิร์ด วันชนะ สวัสดี กล่าวถึงการเข้าร่วมกิจกรรมกับโครงการฯ ว่า "ครอบครัวเราไม่ลังเลที่จะตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมกับโครงการเนสท์เล่เพื่อเด็กสุขภาพดี กับภารกิจ 'กินผักยกบ้าน' และทำภารกิจที่แฝงด้วยเคล็ดลับที่จะช่วยให้ลูกกินผักได้ง่ายและสนุกมากขึ้น อย่างการพาลูกเก็บผักและเข้าครัวทำอาหารที่ลูกชอบด้วยกัน ซึ่งวิธีการนี้ได้ผลมาก น้องวินได้เก็บผักด้วยตัวเองและลงมือทำเมนูอาหารที่ชอบกับพ่อแม่ จึงรู้สึกอยากกินอาหารมื้อนี้มากขึ้น"
สำหรับเทคนิคง่ายๆ ที่โครงการเนสท์เล่เพื่อเด็กสุขภาพดี แนะนำเพื่อเปลี่ยนรสชาติความขมของผักให้กลายเป็นสีสันของความสนุกสนาน ผ่านภารกิจ 'กินผักยกบ้าน' ประกอบด้วย 5 กระบวนท่า ที่ทั้งง่าย น่าสนใจ และช่วยเสริมสร้างทักษะที่มีประโยชน์ให้กับลูกน้อย ดังนี้
1. กินผักให้ลูกเห็น
การที่ลูกไม่ยอมกินผัก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่เคยเห็นพ่อแม่กิน หรือเห็นว่าพ่อแม่ไม่กิน เด็กจึงเลียนแบบไม่ยอมกินผักด้วย ดังนั้น เทคนิคง่ายๆ คือ พ่อแม่กินผักให้ลูกเห็นในทุกมื้ออาหารและชวนลูกกินผักด้วยกันทุกวัน เป็นการปลูกฝังให้ลูกกินผักตั้งแต่เด็กๆ โดยเริ่มจากการที่พ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกอยู่เสมอ
2. จัดจานผักให้น่ากิน
การให้เด็กได้มีส่วนช่วยพ่อแม่ในการจัดตกแต่งอาหารเป็นการนำทักษะด้านศิลปะเข้ามาผสมผสานกับการจัดจานผัก ให้มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม และมีสีสันที่น่ากิน นอกจากจะช่วยเสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กแล้ว ยังช่วยให้เด็กได้พัฒนากล้ามเนื้อมืออีกด้วย
3. ควงแขนลูกไปช้อปผัก
การพาเจ้าตัวน้อยไปจับจ่ายซื้อผักที่ตลาดสดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตร่วมกันทั้งครอบครัว เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กได้เห็นและเลือกซื้อผักที่เขาชอบและสนใจที่จะลองกินด้วยตนเอง เด็กจะได้เพลิดเพลินไปกับการเลือกซื้อผักกับพ่อแม่ ไม่รู้สึกว่าตนเองถูกบังคับ และจะทำให้เขาสนใจที่จะกินอาหารเมนูผักใหม่ๆ ที่เขาได้เลือกเองตามมาในที่สุด
4. พาเข้าครัวทำเมนูผัก
การทำอาหารร่วมกับลูก เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่สามารถช่วยเสริมสร้างทักษะรอบตัวให้กับเด็ก ผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะเข้าครัวพื้นฐาน เช่น การใช้มีดหั่นผักอย่างถูกวิธี การตอกไข่ใส่ถ้วย หรือการผัดข้าวผัดในกระทะ และยังเป็นกิจกรรมที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้พ่อแม่และเชฟตัวน้อยอีกด้วย
5. ชวนลูกปลูกผัก
การปลูกผักกินเอง นอกจากพ่อแม่สามารถมั่นใจได้ว่าผักที่ให้ลูกทานนั้นปลอดสารพิษแล้ว ยังเป็นการสร้างแรงกระตุ้นให้เด็กสนใจกินผักมากขึ้นด้วย เพราะเขาจะได้เริ่มลงมือทำเองตั้งแต่การหว่านเมล็ดผัก ใส่ปุ๋ย รดน้ำ จนไปถึงการเก็บผักมาทำอาหาร เป็นการสร้างความทรงจำที่ดีตลอดช่วงเวลาการรอคอยผลผลิตจากความตั้งใจของตนเอง จึงเกิดความรัก ความรับผิดชอบ และอยากจะกินผักที่ตัวเองปลูกขึ้นตามมา
คุณแม่เพ็ญประภา นวลสุวรรณ และน้องไอที ครอบครัวจากทางบ้านที่เข้าร่วมภารกิจ 'กินผักยกบ้าน'กับโครงการฯ กล่าวว่า "คุณแม่ได้ฝึกให้ลูกกินผักตั้งแต่เด็กๆ โดยเริ่มจากการบดผักให้ลูกกินตั้งแต่ยังเล็กๆ พอลูกเริ่มโตก็พาเข้าครัวช่วยกันทำอาหารด้วยกันอยู่บ่อยๆ การมาร่วมภารกิจกับเนสท์เล่ ทำให้เราได้ไอเดียเพิ่มเติมในการทำกิจกรรมกับลูกในวันหยุด เช่น ปลูกผักด้วยกัน ลองทำเมนูใหม่ๆ ซึ่งเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์กันทั้งครอบครัว จึงอยากจะให้โครงการฯ จัดกิจรรมดีๆ เช่นนี้อีก
ทั้งนี้ 85% ของครอบครัวที่เข้าร่วมกิจกรรม เห็นว่ากิจกรรมนี้ช่วยให้ลูกหลานสนุกกับการกินผักมากขึ้น โดย 3 เทคนิคที่ได้ผลมากที่สุดคือ พาเข้าครัวทำเมนูผัก (81%) กินผักให้ลูกเห็น (77%) จัดจานผักให้น่ากิน (75%) กระบวนท่าสนุกๆ ทั้ง 5 ภารกิจนี้เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กับลูกน้อยได้เป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะทำให้เด็กเกิดความรู้สึกภาคภูมิใจในฝีมือของตนเอง ส่งผลให้เด็กอยากกินผักที่มาจากการคิด สร้างสรรค์และลงมือทำด้วยตนเองตามมา และยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กได้มีส่วนร่วมกับพ่อแม่และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและอบอุ่นมากขึ้นในครอบครัวอีกด้วย
ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝังพฤติกรรมด้านโภชนาการและสุขภาพที่เหมาะสมให้กับเด็กๆ พร้อมติดตามข่าวสารและกิจกรรมดีๆ ที่จะช่วยสร้างสุขในบ้าน จากโครงการเนสท์เล่เพื่อเด็กสุขภาพดีได้ที่ https://www.facebook.com/N4HKThailand/
เนสท์เล่เป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ที่สุดของโลก ครอบคลุม 191 ประเทศทั่วโลก พนักงานเนสท์เล่กว่า 328,000 คนต่างมีพันธสัญญาต่อเจตนารมณ์ของเนสท์เล่ในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต เนสท์เล่นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้คนและสัตว์เลี้ยงครอบคลุมในทุกช่วงวัย มากกว่า 2,000 แบรนด์ ทั้งที่เป็นแบรนด์ที่เป็น
ที่รู้จักในระดับโลก เช่น เนสกาแฟ เนสเปรสโซ ตลอดจนแบรนด์ที่เป็นที่ชื่นชอบในท้องถิ่นอย่าง ตราหมี หรือมิเนเร่ บริษัทฯ ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ด้านโภชนาการเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ปัจจุบัน เนสท์เล่ก่อตั้งมานานกว่า 150 ปี โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์