กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
การดูแลผิวหน้าในรูปแบบแผ่นมาส์กเป็นที่นิยมเนื่องจากเห็นผลค่อนข้างเร็วและสามารถทำได้ง่ายด้วยตนเอง อีกทั้งกระแสนิยมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากธรรมชาติ เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในต่างประเทศ เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งมักนิยมซื้อเครื่องสำอางจากประเทศไทย แต่ในประเทศไทยยังมีผลิตภัณฑ์ประเภทแผ่นมาส์กที่สกัดจากธรรมชาติอยู่น้อย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ดร.สิริรัตน์ พานิช อาจารย์สังกัดกลุ่มวิชาเคมี สาขาวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร จึงคิดผลิตภัณฑ์แผ่นมาส์คหน้าที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยผลิตจากแผ่นกระดาษใยไหม และส่วนประกอบของเซรั่มที่สกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติ ซึ่งช่วยคืนความชุ่มชื้นให้แก่ใบหน้า ปรับสภาพผิวให้แลดูกระจ่างใส นุ่มนวล และคืนความอ่อนเยาว์
ดร.สิริรัตน์ พานิช กล่าวว่า ทำการศึกษาตัวแผ่นมาส์กที่ทำจากวัสดุแผ่นกระดาษใยไหม แทนการใช้กระดาษคอตตอน โดยจากการวิจัยพบว่าแผ่นกระดาษใยไหมมีส่วนประกอบของสารเซริซินในปริมาณสูง ประกอบด้วยกรดอะมิโน 18 ชนิด มีคุณสมบัติสามารถดูดน้ำและพองตัว ละลายน้ำได้ดีจึงยึดติดกับผิวหนังได้ดี สามารถซึมซาบเข้าผิวหนังได้เร็ว ช่วยรักษาความชุ่มชื้นได้เป็นเวลานาน ป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวหนัง เช่น รอยด่างดำและริ้วรอย ผสมผสานกับเซรั่มที่ทำมาจากสารสกัดมะขามป้อมและสมอไทย ซึ่งมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระที่สูง ซึ่งสามารถสร้างจุดขายที่แตกต่างจากแผ่นมาส์กหน้าทั่วไปในท้องตลาดได้เป็นอย่างดี
ดร.สิริรัตน์ พานิช กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้พัฒนาขึ้นมาโดยเป็นการต่อยอดงานวิจัยซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว) โครงการ Thai-fruit-Functional fruit โดยได้ทำการวิจัยทดสอบความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระของผลไม้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย 19 ชนิด ได้แก่ มะม่วงไม่รู้หาวมะนาวไม่รู้โห่ ลูกยอ หมากต้องแล่ง หมากกี่โก่ย หมากเบน หมากตีนตั่ง หมากเม่า หมากเหลี่ยม หมากหม่อน มะขามป้อม สมอ ตะขบ มะแขว่น หมากแงว หมากหว้า เม็ดบัว มะขามเทศ มะขวิด หมากเล็บแมว และผลไม้จากต่างประเทศ 3 ชนิด ได้แก่ ราสเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ พบว่าพืช 3 ชนิด คือ หมากเม่า สมอ และมะขามป้อม เป็น 3 อันดับแรกที่มีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผลไม้จากต่างประเทศได้แก่ ราสเบอร์รี่ แบล็คเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ซึ่งเป็นที่นิยมใส่ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในต่างประเทศ จากการวิจัยพบว่ามะขามป้อมมีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยนอกจากวิตามินซีที่มีปริมาณสูงมากแล้วยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ อีกถึง 6 ชนิด ได้แก่ Qeraninn, Quercetin 3-B-d-Glucopyranoide, Kaempferol 3-B-D- Glucopyranoide, Isocarilagin, Quercetin และ Kaempferol ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด หมอกควันพิษ ซึ่งเป็นตัวการทำลายผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอยแล้วอนุมูลอิสระยังเป็นตัวการเข้าไปกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังสลายเร็วขึ้น ส่งผลให้ผิวแห้งและหมองคล้ำ ดังนั้นเซรั่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้มะขามป้อมยังราคาถูก หาง่าย และมีทุกฤดูกาล จึงเหมาะในการนำมาทำส่วนผสมในเครื่องสำอาง
ทั้งนี้งานวิจัยดังกล่าวได้นำมาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากโครงการสนับสนุนเร่งการเติบโตของธุรกิจนวัตกรรมรายใหม่ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย Research Gap Fund ประจำปี 2561 โดยร่วมลงทุนกับผู้ประกอบการคือ บริษัท โกลบอล วิชั่น เฮ้าส์ จำกัด ภายใต้ผลิตภัณฑ์แผ่นมาส์กหน้าใยไหม ให้ความชุ่มชื้นจากเซริซินและลดเลือนริ้วรอยด้วยสารสกัดมะขามป้อมและสมอ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณหญิงจันทร์ศรี บริษัท โกลบอล วิชั่น เลขที่ 477 ถนน ลาดพร้าว 130 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2731 1177 หรือที่อีเมล globalvision@rocketmail.com