กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--ธนาคารกรุงไทย
ผลประกอบการธนาคารกรุงไทยไตรมาส 2 มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 8,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 ส่วนงวดครึ่งปีแรก มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร 15,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 เป็นผลมาจากสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ช่วงครึ่งแรกของปี 2562 NIM ที่ไม่รวมรายได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองในไตรมาสที่ 1/2562 เพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้ง Coverage Ratio ของงบการเงินรวม ณ 30 มิถุนายน 2562 เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 132.83 จากสิ้นปี 2561
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผย ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของธนาคาร จำนวน 8,170 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากสินเชื่อที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (NIM) เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 3.24 จากร้อยละ 3.10 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากการลดลงของต้นทุนทางการเงิน
ครึ่งแรกของปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเท่ากับ 15,471ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.7 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมจากการดำเนินงาน 63,635 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินเชื่อขยายตัวร้อยละ 2 จากสิ้นปีที่ผ่านมา ทั้งสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อรายย่อย สินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองในไตรมาสแรกของปี NIM ที่ไม่รวมรายได้จากการขายทอดตลาดทรัพย์สินหลักประกันจำนองดังกล่าว เป็นร้อยละ 3.24 ขณะที่ช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาอยู่ที่ร้อยละ 3.09 รายได้จากการดำเนินการอื่นๆ เติบโตร้อยละ 5.5 จากการขายทรัพย์สินรอการขายและกำไรสุทธิจากเงินลงทุน
รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิลดลงร้อยละ 2.3 โดยรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง จากการยกเว้น ค่าธรรมเนียมการโอนเงินรายย่อยผ่านช่องทางดิจิทัลและค่าธรรมเนียม Bancassurance ที่ลดลง ค่าใช้จ่ายการดำเนิน งานเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 จากสำรองการด้อยค่าทรัพย์สินรอการขายตามเกณฑ์ระยะเวลาการถือครองของธนาคารแห่งประเทศไทยตั้งแต่ไตรมาสที่ผ่านมา มีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้เท่ากับร้อยละ 46.76 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 43.64 ในช่วงเดียวกันของปี 2561
นายผยง ศรีวณิช กล่าวต่อไปว่า จากนโยบายการตั้งค่าเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญตามหลักความระมัดระวัง ธนาคารทยอยเพิ่มระดับของอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage Ratio) ณ 30 มิถุนายน 2562 เป็นร้อยละ 132.83 (งบการเงินรวม) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 125.74 ณ 31 ธันวาคม 2561 มี NPLs Ratio-Gross เท่ากับร้อยละ 4.68 และมี NPLs Ratio-Net อยู่ที่ 1.93 ทั้งนี้ ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง เท่ากับร้อยละ 14.34 และ ร้อยละ 18.14 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง เมื่อเทียบกับเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย
อนึ่ง ธนาคารได้ร่วมทุนกับบมจ.บัตรกรุงไทย จัดตั้ง บริษัท เคทีซี นาโน จำกัด และ บริษัท เคทีซี พิโก (กรุงเทพฯ) จำกัด เพื่อขยายการให้บริการสินเชื่อรายย่อย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยต่อหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง