กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--เจซีแอนด์โค พับลิครีเลชั่นส์
ไปรษณีย์ไทย เข้มมาตรการป้องกันลักลอบขนส่งยาเสพติดผ่านเส้นทางไปรษณีย์ พร้อมเตือนระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ย้ำ! ห้ามให้ผู้อื่นยืมบัตรประชาชนฝากส่งสิ่งของ
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ย้ำมีมาตรการป้องกันการลักลอบขนส่งยาเสพติดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีในการป้องกันการลักลอบฝากส่งยาเสพติดผ่านเส้นทางไปรษณีย์อย่างเคร่งครัด พร้อมเตือนผู้ใช้บริการระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ โดยอย่าให้ผู้อื่นยืมบัตรประชาชนไปฝากส่งสิ่งของเด็ดขาด
นายกำพุธ อยู่คง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ด้านระบบบริการ) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทย ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการลักลอบฝากส่งยาเสพติดตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับมาตรการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอย่างเข้มงวด มั่นใจในกระบวนการป้องกันที่นำมาใช้ตั้งแต่การรับฝากไปจนถึงการนำจ่าย มีการตรวจสอบสิ่งของ ณ จุดหุ้มห่อ โดยเจ้าหน้าที่สามารถปฏิเสธการรับฝากหากพบความผิดปกติ พร้อมกันนี้ยังเข้มงวดต่อมาตรการ "ต้องแสดงบัตรประชาชนเมื่อใช้บริการที่ไปรษณีย์ไทย" ทุกครั้ง หากผู้ใช้บริการไม่นำบัตรประชาชนมาแสดงขณะใช้บริการ เจ้าหน้าที่รับฝากจะปฏิเสธการให้บริการรับฝากส่งได้
"เครื่องอ่านบัตรประชาชนอัตโนมัติที่ไปรษณีย์ไทยสามารถเก็บและบันทึกข้อมูลผู้ฝากส่งไว้ทั้งหมด ทำให้สามารถใช้เป็นแหล่งข้อมูลตั้งต้นสำหรับเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยที่จะสืบหาเบาะแสของผู้กระทำผิดได้ นอกจากนี้มีกล้องวงจรปิด ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ สามารถใช้เป็นเครื่องมือสนับสนุนในการตรวจสอบติดตามหาผู้กระทำผิดได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว จึงขอเตือนอย่าใช้เส้นทางไปรษณีย์ในการส่งของผิด กฎหมาย เพราะไปรษณีย์ไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างใกล้ชิดเพื่อสืบหาตัวผู้กระทำความผิดดำเนินคดีตามกฎหมาย"
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทย ขอย้ำถึงมาตรการสิ่งของห้ามฝากส่ง ได้แก่ สิ่งของต้องห้ามฝากส่งทางไปรษณีย์ 7 ประเภท ได้แก่ 1. สัตว์มีชีวิต 2. สิ่งเสพติด 3. สิ่งลามกอนาจาร 4. วัตถุระเบิดหรือวัตถุไวไฟ 5. วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน 6. ธนบัตร และ 7. สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนแบบโดยละเมิดลิขสิทธิ์