กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์' (ILM) ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านชั้นนำในประเทศไทย พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 26 กรกฎาคมนี้ มั่นใจนักลงทุนตอบรับดีจากพื้นฐานธุรกิจและความแข็งแกร่งของแบรนด์ วางแผนเปิดบริการ Index Living Mall อีก 3 สาขาภายในปี 62-63 เตรียมดีเดย์เปิดบริการสาขาจันทบุรีปลายเดือนกรกฎาคมนี้ พร้อมลุยขยายช่องทางจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์สั่งตัด Younique ใน Index Living Mall สาขาต่างๆ และแตกโมเดลใหม่ร้านเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก (COCO) ที่บริษัทฯ ลงทุนและบริหารเอง หนุนการเติบโต
นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ ILM ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 26 กรกฎาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อ 'ILM' ในการซื้อขายหลักทรัพย์ ซึ่งมั่นใจว่าด้วยพื้นฐานธุรกิจและความแข็งแกร่งของแบรนด์ 'อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์' ตลอดจนมีสินค้าและบริการที่ครบวงจร รวมถึงช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุม จะเป็นปัจจัยสนับสนุนความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน
ปัจจุบันบริษัทฯ เปิดบริการ Index Living Mall และ Index Furniture Center แล้วทั้งสิ้น 36 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 21 จังหวัดทั่วประเทศ และยังเป็นผู้ให้บริการธุรกิจให้เช่าและบริการพื้นที่เช่า ภายใต้แบรนด์ The Walk, Little Walk และ Index Mall รวม 9 สาขา โดยมีจุดแข็งด้านแบรนด์ร้านค้าปลีกและแบรนด์สินค้าเป็นที่จดจำและได้รับความนิยม (Brand Awareness) สามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้าชมร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์ พร้อมทั้งเสริมสร้าง Synergy ให้กับธุรกิจหลักของบริษัทฯ เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
ขณะที่แผนงานลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต ได้วางแผนขยาย Index Living Mall เพิ่มขึ้นปีละ 2-3 สาขา จากปัจจุบันที่เปิดบริการ Index Living Mall และ Index Furniture Center แล้วทั้งสิ้น 36 สาขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 21 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยปี 2562-2563 จะเปิดบริการ Index Living Mall อีก 3 สาขา ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 620 ล้านบาท ได้แก่ สาขาจันทบุรี มีพื้นที่ขายประมาณ 3,500 ตารางเมตร เตรียมเปิดบริการปลายเดือนกรกฎาคม 2562 สาขาสุขาภิบาล 3 มีพื้นที่ขายและให้เช่าประมณ 9,200 ตารางเมตร และรามอินทรา มีพื้นที่ขายประมาณ 3,500 ตารางเมตร คาดว่าเปิดบริการปลายปี 2563
พร้อมกันนี้จะขยายการลงทุนร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็ก (COCO) ภายใต้ชื่อ Winner Furniture Center ที่บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนและบริหารร้านเอง มี 3 รูปแบบ พื้นที่ประมาณ 1,050 – 1,700 ตารางเมตร โดยมีแผนเปิดบริการในปีนี้ 2 สาขาเพื่อกระจายทำเลเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมถึงจะขยายช่องทางขายสินค้าเฟอร์นิเจอร์สั่งตัด Younique ภายใน Index Living Mall สาขาต่างๆ ซึ่งมีจุดเด่นในการใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในกระบวนการออกแบบและผลิตสินค้า สามารถออกแบบ ผลิต และติดตั้งแล้วเสร็จภายใน 1 เดือน เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้จะมุ่งเน้นการลดต้นทุนด้านพลังงาน โดยมีโครงการลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในโรงงาน และแผนลงทุนโครงการอื่นๆ อาทิ ปรับปรุงอาคารร้าน Index Living Mall, ลงทุนพัฒนาระบบไอที ฯลฯ รวมถึงชำระเงินกู้จากสถาบันการเงินที่จะส่งผลดีต่อการลดภาระต้นทุนทางการเงิน
นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า การเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน จากการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 105 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 22 บาท โดยนักลงทุนให้ความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจและแผนขยายการลงทุนที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มครอบครัวปัทมสัตยาสนธิ และครอบครัวอุดมมหันติสุข จะนำหุ้นจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 395 ล้านหุ้น ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 78 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ นำฝากไว้กับบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่หุ้นของบริษัทฯ เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจของ บมจ.อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ถือว่ามีความครอบคลุมตั้งแต่เป็นผู้ออกแบบ ผลิต จำหน่ายพร้อมบริการอย่างครบวงจร จึงมีความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันและยังมีฐานลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งลูกค้ารายย่อย
งานโครงการ และตลาดต่างประเทศภายใต้รูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์ โดยมองว่าการดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านจะได้รับปัจจัยเกื้อหนุนจากการขยายตัวของชุมชนเมืองในจังหวัดภูมิภาคและการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ซี่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวของที่อยู่อาศัยรวมถึงความต้องการใช้สินค้าของตกแต่งบ้านและเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มขึ้น