กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--สยามมิชลิน
หลังผ่านการทดสอบหลากหลายรูปแบบอย่างเข้มข้น 'เอ็มเบรเออร์' (Embraer) บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินเจ็ทสัญชาติบราซิล ได้ตกลงใจติดตั้งยางเรเดียล 'มิชลิน แอร์ เอ็กซ์' (MICHELIN Air X) ซึ่งโดดเด่นด้วยเทคโนโลยียางล้อที่แทบไม่มีการขยายตัว หรือ Near Zero Growth (NZG) อันเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของมิชลิน กับเครื่องบินเจ็ท 'เอ็มเบรเออร์ อี 170' (Embraer E170) ที่ผลิตเพื่อใช้งานทั่วทั้งภูมิภาค
เครื่องบินเจ็ท 'เอ็มเบรเออร์ อี 170' เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2547 โดยเดิมทีติดตั้งมาพร้อมยางผ้าใบ (Bias Tyre) ต่อมาในปี 2553 'มิชลิน แอร์ เอ็กซ์ เอ็ม 19601' เป็นยางเรเดียลรุ่นแรกที่ได้รับเลือกให้ใช้ติดตั้งกับเครื่องบิน 'เอ็มเบรเออร์ อี 170' นับแต่นั้นเป็นต้นมา ทีมงานของ เอ็มเบรเออร์ และ มิชลิน ก็ได้ทำงานประสานความร่วมมือกันเพื่อศึกษาเรื่องความไวการตอบสนองของยางล้อคู่ (Sensitivity of the Twinned Tires) บนชุดฐานล้อ (Landing Gear) ต่อ "การสั่น" (การสั่นพ้องของระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำการลดระดับหรือร่อนลงจอดขณะบินที่ความเร็วสูง) ยางรุ่นใหม่ได้รับการปรับปรุงเพื่อลดความไวการตอบสนองนี้ลง โดยวิศวกรของมิชลินได้นำเทคโนโลยียางรถจักรยานมาประยุกต์ใช้ คุณสมบัติที่ได้รับการปรับปรุงนี้เปิดตัวพร้อมกับยาง 'มิชลิน แอร์ เอ็กซ์ เอ็ม 19602' ซึ่งผ่านการทดสอบการร่อนลงจอดที่ความเร็วสูงถึง 190 นอต (352 กิโลเมตร/ชั่วโมง) และการทดสอบเพื่ออนุญาตกลับมาใช้ของยางมิชลินเรเดียลบนเครื่องบิน 'เอ็มเบรเออร์ อี 170'
เทคโนโลยี NZG ได้รับการออกแบบเพื่อให้แน่ใจว่ายางมีการขยายตัวน้อยที่สุด ทั้งนี้ ยางเครื่องบินมีแรงดันลมยางสูงมาก (15 บาร์ เมื่อเทียบกับยางรถยนต์นั่งที่มีแรงดันลมยางเพียง 2.5 บาร์) เพื่อให้สามารถรองรับเครื่องบินที่มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์หลายเท่า การขับเคลื่อนด้วยความเร็วสูงเพื่อนำเครื่องขึ้นและร่อนลงจอดส่งผลให้ยางเครื่องบินขยายตัวจากแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ที่ความเร็วสูง แต่ด้วยเทคโนโลยี NZG การขยายตัวของยางตามแนวเส้นผ่านศูนย์กลางจะลดลง ส่งผลให้ยางมีความแข็งแกร่งและทนต่อความเสียหายอันเกิดจากวัสดุแปลกปลอมได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยี NZG มาใช้ในยาง 'มิชลิน แอร์ เอ็กซ์' ยังช่วยให้สายการบินฯ มีต้นทุนในการดำเนินธุรกิจโดยรวมลดลงเมื่อเทียบกับการใช้ยางเรเดียลมาตรฐานทั่วไป เนื่องจากยาง 'มิชลิน แอร์ เอ็กซ์' สามารถรองรับจำนวนครั้งในการนำเครื่องร่อนลงจอดได้สูงกว่าปกติถึงร้อยละ 30 ทั้งยังมีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นและมีความทนทานต่อความเสียหายเป็นเยี่ยม ยิ่งกว่านั้น เทคโนโลยี NZG ยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับยางและลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงลง ส่งผลให้ระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำลงตามไปด้วย
ทั้งนี้ ยาง 'มิชลิน แอร์ เอ็กซ์ เอ็ม 19602' มีวางจำหน่ายสำหรับติดตั้งเป็นชุดฐานล้อหลัก (Main Gear) สำหรับเครื่องบิน 'เอ็มเบรเออร์ อี 170'
เกี่ยวกับมิชลิน
มิชลิน ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มุ่งมั่นส่งเสริมการสัญจรของลูกค้าอย่างยั่งยืน ออกแบบและจัดจำหน่ายยางที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด ตลอดจนให้บริการและโซลูชั่นที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งครอบคลุมการให้บริการทางดิจิตอล การจัดทำคู่มือและแผนที่สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร รวมถึงการพัฒนาวัสดุทางเทคโนโลยีขั้นสูงสำหรับอุตสาหกรรมการสัญจร กลุ่มมิชลินมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแกลร์มง-แฟร็องประเทศฝรั่งเศส และมีสำนักงานสาขาอยู่ใน 170 ประเทศ โดยมีพนักงาน 125,000 คนทั่วโลก และมีโรงงานผลิตยาง 67 แห่ง ซึ่งผลิตยางรวมกันได้สูงถึง 190 ล้านเส้นในปี 2561 คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.michelin.co.th