กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--สมาคมกอล์ฟอาชีพสตรี
ชมพัช พงศ์ธนารักษ์ แชมป์สนาม 6 จากกาฬสินธุ์ และณัฐเกศ นิมิตพงษ์กุล วัย 23 ปีจากเชียงใหม่ ทำสกอร์รวมเท่ากัน 6 อันเดอร์พาร์ 138 ขึ้นเป็นผู้นำร่วมรอบสอง กอล์ฟอาชีพสตรีรายการที่ 7 ประจำปี 2562 "สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2019" ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท ณ สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟคลับ พาร์ 72 ระยะ 6,545 หลา อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพสตรี ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย และบริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด จัดการแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรีปีที่ 11 รายการที่ 7 ประจำปี 2562 "สิงห์-เอสเอที ไทยแอลพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ 2019" ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท ระหว่างวันที่ 24-26 กรกฎาคม 2562 ณ สนามแบล็คเมาน์เท่นกอล์ฟคลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีนักกอล์ฟสตรีเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 86 คนเป็นนักกอล์ฟอาชีพ 70 คนและนักกอล์ฟสมัครเล่น 16 คน แข่งขันแบบสโตรกเพลย์ 3 วัน 54 หลุม มีเงินรางวัลให้ชิงชัย 40 อันดับ ผู้ชนะเลิศประเภทนักกอล์ฟอาชีพ จะได้รับเงินรางวัล 142,500 บาท ส่วนผู้ชนะเลิศประเภทสมัครเล่นจะได้รับถ้วยรางวัลเกียรติยศ ส่วนผู้ที่ตีเกินวันละ 16 โอเวอร์พาร์ 88 จะไม่ได้รับสิทธิ์เล่นในรอบต่อไป และหลังจบการแข่งขัน 36 หลุม ผู้เล่นอันดับ 1-40 และเสมอ จะได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้าย
เมื่อการแข่งขันรอบสองผ่านพ้นไป (25 ก.ค.) "โปรกุ๊ก" ชมพัช พงศ์ธนารักษ์ วัย 22 ปีจากกาฬสินธุ์แชมป์สนามที่ 6 เก็บได้อีก 5 อันเดอร์พาร์ 67 จาก 5 เบอร์ดี้ที่หลุม 3, 4,10,16 และ 17 สองวันมี 6 อันเดอร์พาร์ 138 แซงขึ้นเป็นผู้นำร่วมกับ "โปรไวน์" ณัฐเกศ นิมิตพงษ์กุล วัย 23 ปีจากเชียงใหม่ โปรจากไทยแอลพีจีเอที่อันดับดีสุดในแม็ทช์ เลดี้ส์ ยูโรเปี้ยน ไทยแลนด์ฯ 2019 ที่รอบนี้ทำได้ 5 อันเดอร์พาร์ 67 เช่นกัน จาก 5 เบอร์ดี้ที่หลุม 2, 4,10, 11 และ 17
ชมพัช ผู้นำร่วมรอบสอง เผยว่า "วันนี้ตีอยู่ในแฟร์เวย์ 12 หลุมทำเรคกูล่าร์ออน 14 กรีน และเก็บได้ 27 พัตต์ ช็อตไดร์ฟกับเหล็ก โอเค แต่ชิพพัตต์ดีมากค่ะ สนามที่นี่เป็นภูเขามีไลน์ขึ้นลงเยอะ พอใจกับผลงานที่ออกมามากค่ะ เดี๋ยวต้องออกไปซ้อมทุกช็อตอีกนิดหน่อย เป็นกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ"
ส่วนณัฐเกศ ผู้นำร่วมอีกคร กล่าวว่า "หนูยังไม่เคยได้แชมป์ไทยแอลฯเลยค่ะ แต่ปีนี้เล่นดีขึ้นแอบหวังว่าจะเป็นวันของเราบ้าง เพราะหนูค่อนข้างมั่นใจมาตั้งแต่จบเลดี้ส์ยูโรเปี้ยนไทยแลนด์ฯเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ที่จบในอันดับ 6 ดีที่สุดของโปรไทย แต่จะไม่คาดหวัง เพราะมีประสบการณ์มาแล้วว่าความกดดันทำให้เราเล่นได้ไม่ดีค่ะ
อันดับสามร่วมมี3คนได้แก่ "โปรกล้วย" กุสุมา มีชัย "โปรปูน" อาณิชา โกนสันเทียะ และ "โปรแจ็คกี้" อาภาสิรี จุลยา ที่สกอร์คนละ 5 อันเดอร์พาร์ 139
ส่วน "โปรเปียโน" อาภิชญา ยุบล วัย 17 ปีจากสระบุรี แชมป์เก่ารายการนี้เมื่อปีก่อน และผู้นำรอบแรก ตีเกิน 4 โอเวอร์พาร์ 76 สองวันเหลือ 3 อันเดอร์พาร์ 141 โดยอาภิชญา เสียโบกี้ที่หลุม 3 ก่อนมาได้เบอร์ดี้คืนที่หลุม 5 จากนั้นเสียทริปเปิ้ลโบกี้ที่หลุม 11 พาร์ 3 จากการทำสี่ออนสองพัตต์ และเสียโบกี้อีกที่หลุม 12 ก่อนปิดด้วยเบอร์ดี้คืนที่หลุม 14 หล่นลงมาอยู่อันดับที่ 6 ร่วม
ส่วนรางวัลตีดีประจำวัน 4,000 บาทในรอบนี้เป็นของ "โปรเบสท์" ปรินดา โพธิ์กัณฑ์ วัย 22 ปีจากขอนแก่น อดีตแชมป์ทำเงินไทยแอลพีจีเอปี 2017 ที่ทำได้ถึง 8 อันเดอร์พาร์ 64 จาก 8 เบอร์ดี้รวดที่หลุม 1,3,4.5,8,9,15 และ 17 สกอร์รวม 2 อันเดอร์พาร์ 142 ในลำดับที่ 9 ร่วม
และไฮไลท์ของรอบนี้เป็นการทำโฮลอินวันของ "โปรชะเอม" ษมาพร แข็งขันธุ์ วัย 20 ปีจาก จ.เลย ทำได้ที่หลุม 3 พาร์ 3 ระยะ 147 หลาด้วยเหล็ก 8 เป็นการทำได้ครั้งที่ 4 ในชีวิต และครั้งที่ 2 ในการแข่งขัน
สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นดีที่สุดเป็นของ "น้องทราย" ณปภัช บุญอินทร์ อดีตทีมชาติวัย 18 ปีจากหัวหิน ว่าที่นักศึกษามหาวิทยาลัยออกัสต้า สหรัฐอเมริกา ที่เก็บเพิ่มได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ 70 สองวันมี 1 อันเดอร์พาร์ 143 อยู่ในลำดับที่ 13 ร่วมของทัวร์นาเม้นท์ โดยมี"น้องขนุน"ชญานิษฐ์ หวังมหาพร วัย 22 ปีจากระยอง นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยไอโอว่าสเตท สหรัฐอเมริกา ที่ อีเว่นพาร์ 144 ในลำดับที่ 16 ของทัวร์นาเม้นท์
ในรอบนี้ตัดคะแนนเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่ 6 โอเวอร์พาร์ 150 จำนวน 51 คน เป็นนักกอล์ฟอาชีพ 41 คนและนักกอล์ฟสมัครเล่น 10 คน
ส่วนการแข่งขันรอบสุดท้าย (26 ก.ค.) กลุ่มผู้นำได้แก่ ชมพัช พงศ์ธนารักษ์, ณัฐเกศ นิมิตพงษ์กุล และกุสุมา มีชัย จะออกเล่นทางด้านหลุม 1 เวลา 08.20 น.และจะมีพิธีมอบรางวัลในเวลาประมาณ 13.30 น.