กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--โรสกีญ่า
กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จับมือ กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำรวจศักยภาพสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางแปรรูป ที่สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด อ.รัษฎา จ.ตรัง
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ได้ร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่และจัดสัมมนาในโครงการ "พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี" ครั้งที่ 2 ณ จังหวัดตรัง เพื่อสำรวจศักยภาพสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจและสินค้าสำคัญในพื้นที่จังหวัดตรัง สำรวจความพร้อม พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ เกี่ยวกับการผลิตและการตลาดของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางแปรรูป อีกทั้งทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ยังจะได้จัดสัมมนาเชิงปฎิบัติการการติดอาวุธสหกรณ์ไทยใช้ประโยชน์เอฟทีเอ และการยกระดับการแข่งขันสหกรณ์ไทยให้ก้าวไกลในโลกค้าเสรี ที่จะช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสามารถใช้เอฟทีเอสร้างแต้มต่อทางการค้า และขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเสริมความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานสินค้ายางพาราของไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสหกรณ์อีกด้วย
ปัจจุบัน สหกรณ์ฯ สามารถผลิตหมอนยางพาราได้เดือนละ 5,000 ใบ จำหน่ายภายในประเทศภายใต้เครื่องหมายการค้า Nong Krok และผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีนอีกเดือนละ 4,000 ใบ ซึ่งเป็นตลาดหลักโดยใช้ตราสินค้าของตนเอง อีกทั้งยังรับจ้างผลิต (OEM) เพื่อส่งออกไปยังมาเลเซียและเมียนมาร์อีกด้วย ทั้งนี้ สหกรณ์ฯ สามารถส่งออกสินค้าโดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีอาเซียน และอาเซียน-จีน"
ยางพาราเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้า โดยได้รับยกเว้นภาษีภายใต้เอฟทีเอหลายฉบับ โดยเฉพาะเอฟทีเออาเซียน-จีน ซึ่งจีนไม่เก็บภาษีนำเข้ากับสินค้ายางพาราที่ส่งออกจากไทยแล้ว นอกจากนี้สินค้ายางพารายังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกสูง โดยในช่วงครึ่งปี 2562 (ม.ค. – พ.ค.) ไทยส่งออกสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 55,444 ล้านบาท ปริมาณ 1,377 ตัน โดยยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ในทางเทคนิค (TSNR) มูลค่า 28,714 ล้านบาท น้ำยางธรรมชาติ มูลค่า 15,628 ล้านบาท ยางแผ่นรมควัน มูลค่า 10,333 ล้านบาท และยางแท่งหรือยางเครป มูลค่า 769 ล้านบาท โดยมีประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เป็นต้น
นายมนัส หมวดเมือง ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด มีสมาชิกจำนวน 86 ราย มีพื้นที่เพาะปลูกยาพารา 3,500 ไร่ ดำเนินกิจการรวบรวมน้ำยางสดจากสมาชิกมาแปรรูปเป็นยางแผ่นรมควัน ปัจจุบันมีโครงการเพิ่มมูลค่าน้ำยางพารา โดยสร้างโรงงานแปรรูปน้ำยางพาราและพัฒนานวัตกรรมผลผลิตจากยางพาราเป็นผลิตภัณฑ์หมอน ที่นอนยางพารา ภายใต้ตราสินค้า "Nongkrok" รวมถึงผลิตภัณฑ์จากยางพาราอื่นๆเช่นชุดชั้นในเพื่อสุขภาพ จากผลิตภัณฑ์จากยางพาราอีกหลายชนิด
ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันสินค้าจากยางพาราของกลุ่มได้ส่งผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายในหลายประเทศเช่น พม่า จีน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ แม้ว่าจะไปได้ดีในตลาดจีนแต่ยังคงต้องแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ผลิตโดยคนจีนเอง ทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่สามารถขยายไปได้มากนัก จึงอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือเรื่องตลาดประเทศอื่นๆที่น่าสนใจอย่างประเทศกลุ่มอาหรับ ยุโรป ที่มีแนวโน้มทิศทางการตลาดที่น่าสนใจและเป็นตลาดใหญ่ นอกจากนี้ทางกลุ่มยังได้พัฒนาศักยภาพการผลิตผลิตภัณฑ์จากยางพาราให้มีคุณภาพอยู่เสมอ เพื่อรองรับตลาดใหม่ๆที่จะใช้ประโยชน์จาก FTA ให้มากขึ้นในอนาคต