กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--2010 ครีเอชั่น แอนด์ คลีน จำกัด
จังหวัดพระนครอยุธยาเดินหน้าผลักดันสินค้าโอท็อปสู่อาเซียน กระตุ้นผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอท็อป ปรับตัวรับกระแสโลกเปลี่ยน หันใช้ช่องทางตลาดออนไลน์เป็นกลยุทธ์ค้าขาย แจงปีที่ผ่านมาสินค้าที่ค้าขายผ่านระบบออนไลน์มีมากกว่า3.3ล้านล้านรายการ ถึงเวลาที่ต้องปรับตัว พร้อมเปิดโครงการพัฒนาตน สร้าง 30 ต้นแบบโอท็อปขาย ออนไลน์ ออฟไลน์ ในโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม ภายใต้ชื่องาน WISDOM GROWN TO ASEAN "ต่อยอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่ภูมิปัญญาสากลแห่งอาเซียน" จัดขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ที่ เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ บางปะอิน
ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ดำเนินโครงการมาต่อเนื่องว่า สินค้าโอท็อป ผลิตภัณฑ์ชุมชน ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีความหลากหลาย เพราะจังหวัดมีถึง 16 อำเภอ 200 ตำบล แนวคิดพัฒนาสินค้าโอท็อปเริ่มมาตั้งแต่ปี 2545 ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาหลายตัว อาทิ มีดอรัญญิก ช้อนสเตนเลส การทำผลิตภัณฑ์ปลาตะเพียน ผลิตภัณฑ์ผ้าผักตบชวา อาหารต่างๆเยอะมาก ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาโปรดักส์ แพจเกจจิ้ง การพัฒนาคุณภาพของสินค้า การส่งเสริมช่องทางการจัดจำหน่าย รวมทั้งการประกวดผลิตภัณฑ์ในจังหวัดตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม ภายใต้ชื่องาน WISDOM GROWN TO ASEAN "ต่อยอด ภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่ภูมิปัญญาสากลแห่งอาเซียน" ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 31 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม ที่ เออีซี เทรด เซ็นเตอร์ บางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนให้กับผู้ประกอบการ ทั้งด้านสินค้าและการขยายช่องทางการตลาด สอดรับกระแสโลกการค้า ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเข้ามามีบทบาท ของ Ecommerce ผู้ประกอบการต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ ตอบสนองทั้งในส่วนของ online และ offline สามารถแข่งขันทางการค้า ให้สินค้าโอท็อปสามารถเชื่อมโยงสู่ตลาดอาเซียนได้
จังหวัดต้องการพัฒนาผู้ค้าให้มีความเข้าใจ จึงได้จัดงาน WISDOM GROWN TO ASEAN "ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น สู่ภูมิปัญญาสากลแห่งอาเซียน"ในงานมีกิจกรรมจัดอบรมผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอท็อป และมีการคัดเลือกผลิตภัณฑ์โอท็อปจำนวน 100 ผลิตภัณฑ์ให้เหลือ 30 ผลิตภัณฑ์ เพื่อนำมาพัฒนาสร้างความเข็มแข็ง ขึ้นสู่ตลาดออฟไลน์ และออนไลน์ สำหรับผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ จะได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม มองเห็นความแตกต่าง การที่เข้าร่วมเป็นกลุ่มกว่า 100 คน 100สินค้าโอท็อป ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับการคัดเลือก หรือไม่ได้คัดเลือก อย่างน้อยจะได้รู้ความแตกต่าง จากการเปรียบเทียบ และเอากลับไปวิเคราะห์ศักยภาพสินค้าและพัฒนาต่อได้อย่างมีแนวทาง
" งานนี้ผู้ประกอบการยังได้พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นมากกว่าการออกงานเพื่อขายสินค้าปกติทั่วไป เพราะโลกเปลี่ยน รูปแบบการขายต้องมีหลากหลายช่องทางมาก วันนี้สินค้าออนไลน์ในประเทศกว่า 3.3 ล้านล้านรายการ ที่เกิดขึ้นในรอบปีที่ผ่านมา เป็นสินค้าที่ผ่านระบบออนไลน์ต่างประเทศถึง 2.2 ล้านล้านรายการ ดังนั้นรูปแบบการเรียนรู้พัฒนาดังที่โครงการดำเนินการนี้ จะช่วยให้ผู้ประกอบการนำความรู้ไปพัฒนาตนเองให้ดียิ่งขึ้น กลุ่มที่ได้รับการคัดสรรก็จะได้รับความรู้ โนฮาวมากขึ้น อนาคตจะมีการพัฒนาให้เกิดความแข็งแรงยิ่งขึ้น " ดร.สุจินต์ กล่าว
สำหรับโครงการส่งเสริมการสร้างผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรมนี้ ได้มีการเปิดรับสมัครผลิตภัณฑ์โอท็อป เข้าร่วมโครงการจนถึงวันที่ 26 กรกฏาคม 2562 และไปอบรมกันต่อที่สำนักงาน เออีซี เทรดเซ็นเตอร์ อาคาร1 ชั้น5 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2562 โดยงานจะมีกิจกรรม การพัฒนาความรู้ความเข้าใจ การวางรากฐานพัฒนาต่างๆ พร้อมคำแนะนำ ส่งเสริมการขยายตลาดสินค้าสู่ช่องทางแบบออนไลน์ และ สร้างหน้าร้านออนไลน์ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการทั้งในประเทศ และ ตลาดต่างประเทศ โดยเริ่มจากตลาดอาเซียน ก่อนเพื่อเป็นโครงการนำร่อง หลังจากคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์การคัดสรร เพื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนา 30 ราย เพื่อเข้าสู่ตลาดออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ และเข้าสู่ตลาดเพื่อขายสินค้าไปสู่ตลาดต่างประเทศต่อไป