กรุงเทพฯ--30 ก.ค.--โรงพยาบาลสมิติเวช
สมิติเวช ย้ำวิสัยทัศน์ #เราไม่อยากให้ใครป่วย เปิดมิติบริการทางการแพทย์ยุคใหม่ "Healthy Life Plus" จับมือไทยประกันชีวิต สร้าง EcoHealth System เชื่อมโยงการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันอย่างครบวงจร ผสานบริการ Samitivej Virtual Hospital และเอื้อลูกค้าเข้าถึงบริการทุกที่ ทุกเวลา คลิกเดียวถึง ผ่านแอปฯ Samitivej Plus ยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย
นายแพทย์ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีของคนไทยคือหัวใจหลักที่เรายึดมั่น โดยในปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว คนรุ่นใหม่ต้องการความว่องไว เข้าถึงง่าย และความคุ้มค่าของเวลา ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่และความท้าทายของธุรกิจด้านสุขภาพ (Healthcare)
"เมื่อเทคโนโลยีเข้ามา เกิดการดิสรัปชั่นซึ่งเรามองว่าเป็นเรื่องดี เพราะทำให้มีการสร้างใหม่และมีจุดเปลี่ยนใหม่ร่วมกัน หลายองค์กรสามารถร่วมมือกันได้หากมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน โดยในธุรกิจโรงพยาบาลจุดมุ่งหมายสำคัญของเราคือไม่อยากให้คนป่วย และเชื่อว่าเมื่อลูกค้าไม่ป่วยก็จะคิดถึงเราเอง จึงเกิดคำถามว่าถ้าไม่มีคนป่วยธุรกิจเราจะอยู่อย่างไร ผมจะตอบเสมอว่าโรงพยาบาลของเราไม่ได้ตั้งมารักษาคนไข้เพื่อให้ได้เงิน แต่เราทำเพื่อเพิ่มคุณค่า รักษาคนป่วยส่วนน้อยให้ดีขึ้นและป้องกันไม่ให้คนส่วนมากป่วย ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนประเทศทั้งทางสังคมและเศรษฐกิจ"
นายแพทย์ชัยรัตน์ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือกับไทยประกันชีวิตในครั้งนี้ เนื่องจากทั้งสององค์กรมีวิสัยทัศน์ร่วมกัน คือ #เราไม่อยากให้ใครป่วย อยากให้คนไทยมีสุขภาพดี รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ภายใต้เป้าหมายการสร้าง EcoHealth System เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพในเชิงป้องกัน หรือ Preventive Medicine จึงเกิดการสร้าง Brand Collaboration ขึ้น และขยายฐานการดูแลสุขภาพสู่วงกว้างมากขึ้น
"การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงต่อจากนี้ โดยผู้ให้บริการจะต้องคิดค้น พัฒนารูปแบบการให้บริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการได้ทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง โดยสมิติเวชจะอำนวยความสะดวก ให้ลูกค้าไทยประกันชีวิตสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ ได้ทุกที่ทุกเวลา ผ่าน Samitivej Virtual Hospital และแอปพลิเคชั่น Samitivej Plus รวมถึงจัดโปรแกรมการดูแลสุขภาพ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล การบริการข้อมูลทางด้านสุขภาพ การจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพและอื่นๆอื่นมากมาย"
สำหรับ Samitivej Virtual Hospital เป็นการนำเทคโนโลยี Telehealth เชื่อมโยงกับบริการทางการแพทย์ที่มีอยู่เดิม ก่อให้เกิดบริการทางการแพทย์แบบรูปแบบใหม่ภายใต้แนวคิด #คลิกเดียวถึง ถือเป็นการเปลี่ยนมิติของการดูแลสุขภาพด้าน Healthcare ของสมิติเวช โดยให้บริการด้านต่างๆประกอบด้วย Teleconsultation บริการให้คำปรึกษาทางการแพทย์ผ่าน Video Call ด้วยทีมแพทย์และทีมพยาบาลของสมิติเวชโดยเฉพาะตลอด 24 ชั่วโมง บริการเจาะเลือดถึงบ้าน Test @Home แล้วนำส่งห้องปฏิบัติการทันที บริการจัดส่งยา Medicine Delivery บริการ Vaccine @Home การฉีดวัคซีนถึงบ้านโดยพยาบาลวิชาชีพ และ Virtual Weight Management Program ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล
"หลังจากเปิดให้บริการผลตอบรับที่ได้คือเราสามารถช่วยคนไข้ได้จริง ยกตัวอย่างเช่น คนที่มีปัญหาเท้าบวม ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ส่งข้อมูลและภาพมาเพื่อขอคำแนะนำโดยแพทย์ จากนั้นประเมินเบื้องต้นพบว่ามีความอันตรายต้องเข้ารักษาอย่างเร่งด่วน ขณะที่อีกกรณีมีผื่นขึ้นแต่อยู่ต่างประเทศ ก็ส่งรูปมาปรึกษาแพทย์ได้รับคำแนะนำว่าเป็นผื่นแพ้อากาศทั่วไปก็ให้ความสบายใจต่อลูกค้าได้ ดังนั้นเราจึงมองว่าการแนะนำเบื้องต้นนี้ สร้างประโยชน์มหาศาลทั้งค่าใช้จ่ายและเวลา อีกทั้งยังมีข้อแนะนำเพื่อป้องกันโรคและสามารถเช็กโปรไฟล์ของแพทย์และตารางคิวการรักษาได้อีกด้วย" ซีอีโอสมิติเวชกล่าว
นายแพทย์ชัยรัตน์ อธิบายว่า ผู้ใช้บริการสามารถวางใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล เพราะสมิติเวชใช้ระบบรักษาข้อมูลตามมาตรฐานสากล HIPAA (Health Insurance Portability and Accountability Act) ส่วนแอปพลิเคชั่น Samitivej Plus โดยแอปพลิเคชั่นดังกล่าวจะเป็นเสมือนผู้ช่วยด้านสุขภาพที่ให้ข้อมูลครอบคลุมตั้งแต่ก่อนเดินทางเข้าใช้บริการ (Pre Hospital) ระหว่างใช้บริการที่โรงพยาบาล (Hospital) จนถึงหลังจากกลับบ้านเพื่อพักฟื้นหรือดูแลตัวเอง (Post Hospital) เรียกว่า ให้บริการนัดหมายแพทย์ พบแพทย์ ชำระค่ารักษา ดูประวัติการรักษา ทั้งหมดจบในแอปพลิเคชั่นเดียว
"เราจะช่วยให้คุณสามารถรู้ทันโรคที่กำลังจะเป็นว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอะไรใน 3-5 ปีนี้ เพื่อจะได้รู้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันและปรับตัว ที่สำคัญคือสามารถป้องกันไม่ให้โรคหรือปัจจัยดังกล่าวเกิดในอีก 10 ปีข้างหน้าได้ด้วยการใช้เทคโนโลยีการแพทย์ เป็นการผ่อนหนักให้เป็นเบาหรือสกัดกั้นไม่ให้เป็นเลย แต่เดิมคนมักจะมีทัศนคติว่าจะต้องป่วยก่อนเข้าโรงพยาบาล มีความกลัว ดังนั้นถ้าเราเปลี่ยนความคิดให้คนไข้สามารถและมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ เปลี่ยนจาก sick-care เป็น self-care โดยโรงพยาบาลทำหน้าที่เป็น help-care (ช่วยเหลือ) คือเป็นโค้ชให้คำแนะนำและคอยป้องกันไม่ให้พวกเขากลับมาป่วย จะเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยอย่างยั่งยืน"
ด้านไชย ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทประกาศปรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจใหม่ หรือ Reinvent Business Model เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในยุค Digital Disruptive ซึ่งผู้บริโภคในปัจจุบันมีความต้องการคุณค่าที่แท้จริงของสินค้าและบริการ
แนวทางการส่งเสริมให้ลูกค้ามีสุขภาพที่ดี ส่วนหนึ่งต้องมาจากการใส่ใจ ดูแลสุขภาพในเชิงป้องกัน หรือ Preventive Healthcare ไทยประกันชีวิตจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่ดี ซึ่งมี Business Goal เดียวกันในด้าน Wellness Strategy คือ สมิติเวช เพื่อสร้าง EcoHealth System คือ การเชื่อมโยงระบบการดูแลสุขภาพ และการส่งเสริมสุขภาพที่ดีให้กับลูกค้าอย่างครบวงจร ผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการร่วมกับพันธมิตรด้านสุขภาพมอบสิทธิประโยชน์ที่มากกว่าให้กับลูกค้า
ความร่วมมือโครงการ Healthy Life Plus กับสมิติเวชในครั้งนี้ จะเอื้อให้ลูกค้าไทยประกันชีวิตสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้ ทุกที่ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชัน "Samitivej Plus" ซึ่งป็นแอปพลิเคชันที่ดูแลลูกค้าตั้งแต่ก่อนมาโรงพยาบาล ระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล และกลับจากโรงพยาบาล โดยเฉพาะการให้บริการที่ปรึกษาทางการแพทย์ Samitivej Virtual Hospital หรือโรงพยาบาลเสมือนจริง ซึ่งลูกค้าสามารถปรึกษาแพทย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ ง่าย สะดวกสบาย ด้วยค่าบริการที่เหมาะสม เหมือนกับการมารับบริการที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ ลูกค้าไทยประกันชีวิตสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Samitivej Plus ได้ฟรี ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android รวมถึงใช้บริการต่างๆ ในแอปพลิเคชันได้ฟรี อาทิ การนัดหมายแพทย์ การแจ้งเตือนการนัดหมาย ยกเว้นการใช้บริการ Samitivej Virtual Hospital ซึ่งจะมีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ในการใช้บริการ Samitivej Virtual Hospital ลูกค้าไทยประกันชีวิตสามารถใช้บริการ ผ่าน 3 ช่องทางหลัก คือ แอปพลิเคชัน "Samitivej Plus", แอปพลิเคชั่น "Thailife Card" และเว็บไซต์ www.thailife.com ผ่านบริการ iService
นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถนำความต้องการของลูกค้ามาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการบริการในลักษณะ Personalized เฉพาะรายบุคคลได้ในอนาคต รวมถึงการร่วมกับสมิติเวชจัดกิจกรรมพิเศษด้านสุขภาพสำหรับลูกค้า หรือการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ด้านสุขภาพ เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันให้กับลูกค้า
โดยในเบื้องต้นไทยประกันชีวิตร่วมกับสมิติเวช มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า สำหรับลูกค้าที่รับบริการตรวจสุขภาพ 5 โปรแกรม ได้แก่ การตรวจยีน 50 ยีน เพื่อดูความเสี่ยงโรคมะเร็ง การตรวจยีน 139 ยีน เพื่อดูภาวะสุขภาพ การตรวจดูความยาวของปลายสาย DNA คือตรวจดูอายุชีวภาพ (Telomere Program) การตรวจยีนเพื่อดูความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ Precision Alzheimer's disease1 และการตรวจยีนเพื่อดูความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ Precision Alzheimer's disease2 จะได้รับสิทธิตรวจ Fibroscan หรือการตรวจไขมันพอกตับฟรี เฉพาะการเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
"สิ่งสำคัญคือการต้องเปลี่ยนให้คนมองว่าการตรวจสุขภาพเป็นการป้องกัน โรงพยาบาลเป็นสถานที่ที่ควรเข้าหา โดยไม่ต้องคิดว่าต้องเจ็บป่วยเสียก่อนถึงจะเข้ารักษา เป็นการยกระดับให้ผู้คนมีชีวิตยืนยาวและมีความสุข" ไชยกล่าว