กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--เอ็ม ที มัลติมีเดีย
'บมจ. เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN' ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล ชี้เทรนด์ตลาด OTT ในอาเซียนยังมาแรง หนุนความต้องการคอนเทนต์คุณภาพระดับโลกเพื่อเจาะกลุ่มผู้ชมผ่านออนไลน์ เดินเกมรุกทำตลาดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในต่างประเทศเต็มรูปแบบ ผ่านกลยุทธ์ 'ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง' ออกบูทในงานเทศกาลหนังทั่วโลก บูมคอนเทนต์ไทย ดันการเติบโตผ่านช่องทาง OTT เพิ่ม คาดส่งผลดีต่อการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากตลาดต่างประเทศเพิ่มเป็น 30% ตามเป้าหมาย
คุณบรรพต ชวาลกร รองกรรมการผู้จัดการสายงานการลงทุน บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า แนวโน้มการนำคอนเทนต์ภาพยนตร์ ซีรี่ส์ละคร เพื่อออกอากาศผ่านแพลตฟอร์ม OTT (Over-the-top) ทั่วโลก ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจัยพฤติกรรมของผู้บริโภคต่อการรับชมคอนเทนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป มีการรับชมผ่านดีไวซ์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการรับชมผ่านช่องทางฟรีทูแอร์อย่างเช่น ดิจิทัลทีวี โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนที่พบว่ามีจำนวนผู้ชมคอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์ม OTT เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
คุณบรรพต กล่าวว่า "เราเห็นสัญญาณการเติบโตของช่องทางการเผยแพร่คอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์ม OTT ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาเทคโนโลยีทางการสื่อสารและดีไวซ์ ส่งผลต่อพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ผ่าน OTT ของผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ JKN เชื่อว่า อุตสาหกรรมคอนเทนต์ในตลาดโลกยังคงเติบโตได้ดีบนออนไลน์แพลตฟอร์ม ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากฐานผู้ชมของแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ผู้ชมทั่วโลกให้ความนิยมอย่าง Netflix รวมไปถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เกิดขึ้นใหม่มากมาย และด้วยจุดแข็งของ JKN ที่มีลิขสิทธิ์คอนเทนต์คุณภาพระดับโลก 8 กลุ่ม เช่น ซีรี่ส์ Hollywood ซีรี่ส์อินเดีย ซีรี่ส์ฟิลิปินส์ รวมถึงคอนเทนต์ละครไทยจากช่อง 3 จึงสามารถรองรับฐานกลุ่มคนดูที่รับชมผ่านช่องทางออนไลน์ได้เป็นอย่างดี"
สำหรับแผนการจำหน่ายคอนเทนต์ในต่างประเทศครึ่งปีหลัง JKN ยังคงตอกย้ำจุดแข็งด้านการทำตลาดภายใต้แนวคิด 'ซูเปอร์สตาร์มาร์เก็ตติ้ง' โดยมีแผนร่วมออกบูท และจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อสร้างกระแสให้แก่คอนเทนต์ที่นำไปจำหน่ายต่างประเทศ เช่น งาน MIDCOM ที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นต้น โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศ และการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ผ่านแพลตฟอร์ม OTT อยู่ที่ 30% ของรายได้รวมทั้งหมด โดย JKN มีแผนขยายการจำหน่ายคอนเทนต์แก่คู่ค้า เพื่อนำคอนเทนต์ระดับโลกที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ JKN ไปออกอากาศผ่านช่องทางนี้มากขึ้น
โดยล่าสุด บริษัทฯ ประสบความสำเร็จกับการจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซีรี่ส์ละครไทยจากช่อง 3 ในประเทศมาเลเซีย บรูไน และสิงคโปร์ ผ่านแพลตฟอร์ม OTT ภายใต้ชื่อ DIMSUM เป็นช่องทางเผยแพร่ นอกจากนี้ JKN ยังได้จัดทำช่องทีวีออนไลน์ JKN ZEE Magic ซึ่งรวบรวมภาพยนตร์และซีรี่ส์อินเดีย เพื่อออกอากาศตลอด 24 ชั่วโมง สามารถรับชมผ่านช่องทางออนไลน์และเว็บไซต์ Bflix หรือผ่านแอพพลิเคชั่น AIS Play และ TrueID อีกด้วย